ดร.สุวิทย์ เมษิณทรีย์ สมาชิกปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า จะปฏิรูปประเทศได้นั้น ประชาชนจะต้องอยู่ดีกินดี เศรษฐกิจดี หากไม่เปลี่ยนจะยังคงเป็นแบบเดิม ดังนั้นจะต้องเปลี่ยนโครงสร้างและการปฏิบัติ เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ซึ่งขณะนี้ ไม่ใช่เป็นปัญหาของประเทศอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาของโลก หากจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำได้นั้น ต้องเปลี่ยนแปลงที่เศรษฐกิจระบบทุนนิยมที่เกิดจากการแข่งขัน โดยไม่ได้คำนึงถึงอนาคตว่า จะเกิดผลกระทบต่อประชาชนอย่างไร ซึ่งถือว่ามีความน่ากลัวอย่างมาก ด้วยความบกพร่องที่ทำให้เข้าสู่วงจรอุบาทว์ ครอบงำทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก
นอกจากนี้ ดร.สุวิทย์ ยังกล่าวว่า ความเหลื่อมล้ำมีหลายรูปแบบ ทั้งความเหลื่อมล้ำตามธรรมชาติ ความเหลื่อมล้ำจากการกระทำ ความเหลื่อมล้ำจากความรู้สึก ความเหลื่อมล้ำในระดับที่ยอมรับไม่ได้ จึงต้องปฏิรูปในเชิงสถาบันเพื่อในเกิดความเข้มแข็ง จัดระเบียบโครงสร้างด้วยการคลายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นในรูปแบบเครือข่ายชุมชน พึ่งพาอาศัยกัน หากอำนาจยังคงอยู่ที่ส่วนกลาง ไม่ใช่การปฏิรูปที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม จะต้องคิดว่าจะต้องทำอย่างไร สังคมถึงจะเป็นระบบการพึ่งพาอาศัยกัน โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ขาดให้เติม เมื่อเต็มก็หยุดเพื่อในเกิดความเหมาะสม และการเมืองจะต้องมีความหลากหลาย ตอบโจทย์สังคมได้ สร้างประชาชนให้เข้มแข็งถึงจะเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
นอกจากนี้ ดร.สุวิทย์ ยังกล่าวว่า ความเหลื่อมล้ำมีหลายรูปแบบ ทั้งความเหลื่อมล้ำตามธรรมชาติ ความเหลื่อมล้ำจากการกระทำ ความเหลื่อมล้ำจากความรู้สึก ความเหลื่อมล้ำในระดับที่ยอมรับไม่ได้ จึงต้องปฏิรูปในเชิงสถาบันเพื่อในเกิดความเข้มแข็ง จัดระเบียบโครงสร้างด้วยการคลายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นในรูปแบบเครือข่ายชุมชน พึ่งพาอาศัยกัน หากอำนาจยังคงอยู่ที่ส่วนกลาง ไม่ใช่การปฏิรูปที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม จะต้องคิดว่าจะต้องทำอย่างไร สังคมถึงจะเป็นระบบการพึ่งพาอาศัยกัน โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ขาดให้เติม เมื่อเต็มก็หยุดเพื่อในเกิดความเหมาะสม และการเมืองจะต้องมีความหลากหลาย ตอบโจทย์สังคมได้ สร้างประชาชนให้เข้มแข็งถึงจะเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
