เครือข่ายประชาชนปฏิรูปสลาก ร่วมกับเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เครือข่ายเด็กวัยรุ่นใหม่ไม่พนัน เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน จัดกิจกรรมรณรงค์รักษาสิทธิผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ภายใต้แนวคิด "เกิน 80 บาท ... ไม่ซื้อ" พร้อมทั้งเดินรณรงค์เขิญชวนและแจกสติ๊กเกอร์ให้กับประชาชน
โดย ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาจำหน่ายสลากเกินราคาว่า สำนักงานสลากฯ มีมาตรการดูแลผู้ซื้อทั้ง 20 ล้านคน ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนคือ 1.จัดระเบียบทำความเข้าใจกับผู้ค้ารายใหญ่ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด หากพบผู้ค้ากระทำความผิด จะมีโทษจำคุก 1 เดือนหรือปรับ 10,000 บาท 2.ปรับแผนกำหนดช่องทางการจำหน่ายสลาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทำ MOU กับบริษัท ปตท. เพื่อให้ผู้ขายมีที่ขายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และ 3.พัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน อาทิ เพิ่มรางวัลสลากเลข 3 ตัวหน้า
นอกจากนี้ ในวันที่ 15 มิถุนายน บอร์ดสลากฯ จะพิจารณาสัดส่วนสลากฯ ผู้ค้ารายย่อยให้ครบ 11 ล้านฉบับ คาดว่าเริ่มดำเนินการได้ในเดือนกรกฎาคม และจะพิจารณาลดระยะเวลาการต่อสัญญากับผู้ค้ารายใหญ่จาก 6 เดือนให้เหลือเพียง 3 เดือน เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้ค้ารายใหญ่กับผู้ค้ารายย่อยด้วย
ด้าน พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการบอร์ดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า ถือว่าการแก้ปัญหาในระยะแรกยังไม่น่าพอใจ เนื่องจากยังมีผู้ค้ารายใหญ่ หรือยี่ปั๊วพยายามขายเกินราคาอยู่ ทั้งๆที่รับสลากมาในราคาต้นทุน โดยจะเร่งทำความเข้าใจให้ผู้ค้าปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ประชาชนเองก็ต้องรักษาสิทธิประโยชน์ด้วยการไม่ซื้อ เชื่อว่าหากช่วยกันต่อต้าน ไม่ซื้อ ไม่สนับสนุน คาดว่าไม่เกิน 2 เดือน น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
โดย ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาจำหน่ายสลากเกินราคาว่า สำนักงานสลากฯ มีมาตรการดูแลผู้ซื้อทั้ง 20 ล้านคน ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนคือ 1.จัดระเบียบทำความเข้าใจกับผู้ค้ารายใหญ่ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด หากพบผู้ค้ากระทำความผิด จะมีโทษจำคุก 1 เดือนหรือปรับ 10,000 บาท 2.ปรับแผนกำหนดช่องทางการจำหน่ายสลาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทำ MOU กับบริษัท ปตท. เพื่อให้ผู้ขายมีที่ขายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และ 3.พัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน อาทิ เพิ่มรางวัลสลากเลข 3 ตัวหน้า
นอกจากนี้ ในวันที่ 15 มิถุนายน บอร์ดสลากฯ จะพิจารณาสัดส่วนสลากฯ ผู้ค้ารายย่อยให้ครบ 11 ล้านฉบับ คาดว่าเริ่มดำเนินการได้ในเดือนกรกฎาคม และจะพิจารณาลดระยะเวลาการต่อสัญญากับผู้ค้ารายใหญ่จาก 6 เดือนให้เหลือเพียง 3 เดือน เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้ค้ารายใหญ่กับผู้ค้ารายย่อยด้วย
ด้าน พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการบอร์ดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระบุว่า ถือว่าการแก้ปัญหาในระยะแรกยังไม่น่าพอใจ เนื่องจากยังมีผู้ค้ารายใหญ่ หรือยี่ปั๊วพยายามขายเกินราคาอยู่ ทั้งๆที่รับสลากมาในราคาต้นทุน โดยจะเร่งทำความเข้าใจให้ผู้ค้าปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ประชาชนเองก็ต้องรักษาสิทธิประโยชน์ด้วยการไม่ซื้อ เชื่อว่าหากช่วยกันต่อต้าน ไม่ซื้อ ไม่สนับสนุน คาดว่าไม่เกิน 2 เดือน น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง