ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และนายกสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ตามที่ สอท. เปิดรับสมัครคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษาในระบบแอดมิชชั่นกลาง ประจำ ปีการศึกษา 2558 ตั้งแต่วันที่ 10-17 พ.ค. ทาง เว็บไซต์ www.aupt.or.th และ www.cuas.or.th ซึ่งมีผู้สมัคร 131,665 คน ชำระเงินแล้ว 96,447 คนนั้น ขณะนี้ได้มีการประมวลผลคะแนนของนักเรียนเรียบร้อย และพร้อมประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ และตรวจร่างกาย ในวันที่ 5 มิถุนายน 2558
อย่างไรก็ตาม สอท.จะพยายามประกาศผลให้นักเรียนได้รับทราบภายในช่วงเย็นของวันที่ 4 มิถุนายน ซึ่งจะเป็นการประกาศผลก่อนกำหนดเดิมที่ได้กำหนดไว้วันที่ 5 มิถุนายน โดยจะประกาศผลทางเว็บไซต์ www.aupt.or.th , www.cuas.or.th และเว็บไซต์พันธมิตรที่ร่วมประกาศผล ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเว็บล่มอย่างแน่นอน เนื่องจากทาง สอท.ได้มีการเตรียมการณ์เรื่องของระบบออนไลน์ ระบบซอฟต์แวร์ต่างๆไว้อย่างดี
อีกทั้งในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ สอท.จะมีการแถลงข่าวชี้แจงผลคะแนนแอดมิชชั่น รวมถึงเปิดเผยรายชื่อคณะ/สาขายอดนิยม และรายชื่อนักเรียนที่สอบได้ในคะแนนแอดมิชชั่นอันดับสูงสุด เป็นต้น ขอฝากถึงนักเรียนทุกคนว่าให้ตรวจสอบผลคะแนนแอดมิชชั่นด้วยตนเอง ทั้งนี้หาก พลาดหวังไม่ได้คณะ สาขา หรือมหาวิทยาลัยที่ตนเองต้องการ อย่าคิดมากหรือวิตกกังวลจนทำร้ายตัวเอง เพราะตอนนี้มีมหาวิทยาลัยให้เข้าศึกษาต่อจำนวนมาก และขอฝากพ่อแม่ว่าอย่าตำหนิหรือดุด่าว่ากล่าวลูก แต่ควรให้กำลังใจ
ศ.ดร.ประสาท กล่าวต่อไปว่า จำนวนรับนักศึกษาของแอดมิชชั่นในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประกาศไว้เมื่อครั้งเปิดรับสมัครว่า จะรับประมาณ 1.2 แสนคน เป็นประมาณ 1.4 แสนคน เพราะหลังจากที่มหาวิทยาลัยมีการประกาศผลการคัดเลือกในระบบรับตรงไปแล้ว ปรากฏว่ามีเด็กจำนวนหนึ่งสละสิทธิ์ ทำให้มหาวิทยาลัยได้เด็กไม่เต็มตามจำนวนที่กำหนดไว้ จึงต้องนำที่ว่างของรับตรงมาเพิ่มในแอดมิชชั่นกลาง ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่นักเรียนที่จะมีโอกาสเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ตนเองเลือกไว้มากขึ้น ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามกติกาที่ สอท.กำหนดไว้อยู่แล้ว โดยมหาวิทยาลัยสามารถขอให้ สอท.ประกาศรับนักศึกษาเพิ่มได้ แต่ไม่สามารถขอให้ลดการรับนักศึกษาได้
“ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่คัดเลือกเด็กโดยใช้ระบบรับตรง แต่ได้เด็กไม่ตรงตามแผนที่กำหนดไว้ จึงทำให้ต้องมาเพิ่มเติมในแอดมิชชั่น ทั้งนี้เรื่องแผนการรับนักศึกษานั้น มหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องแจ้งจำนวนรับนักศึกษาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบก่อนการรับสมัครอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความคุ้มค่าของงบประมาณแผ่นดิน เช่น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงบประมาณ และ สอท. เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าการเพิ่มจำนวนนักศึกษานั้นจะเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริต เพราะการคัดเลือกนักศึกษาผ่านระบบแอดมิชชั่นยังยึดหลักการเดิมที่ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และยืนยันว่าการแอดมิชชั่นครั้งนี้ไม่มีการฝากเด็กแน่นอน เนื่องจาก สอท.ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลการคัดเลือก” ศ.ดร.ประสาท กล่าว
อย่างไรก็ตาม สอท.จะพยายามประกาศผลให้นักเรียนได้รับทราบภายในช่วงเย็นของวันที่ 4 มิถุนายน ซึ่งจะเป็นการประกาศผลก่อนกำหนดเดิมที่ได้กำหนดไว้วันที่ 5 มิถุนายน โดยจะประกาศผลทางเว็บไซต์ www.aupt.or.th , www.cuas.or.th และเว็บไซต์พันธมิตรที่ร่วมประกาศผล ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเว็บล่มอย่างแน่นอน เนื่องจากทาง สอท.ได้มีการเตรียมการณ์เรื่องของระบบออนไลน์ ระบบซอฟต์แวร์ต่างๆไว้อย่างดี
อีกทั้งในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ สอท.จะมีการแถลงข่าวชี้แจงผลคะแนนแอดมิชชั่น รวมถึงเปิดเผยรายชื่อคณะ/สาขายอดนิยม และรายชื่อนักเรียนที่สอบได้ในคะแนนแอดมิชชั่นอันดับสูงสุด เป็นต้น ขอฝากถึงนักเรียนทุกคนว่าให้ตรวจสอบผลคะแนนแอดมิชชั่นด้วยตนเอง ทั้งนี้หาก พลาดหวังไม่ได้คณะ สาขา หรือมหาวิทยาลัยที่ตนเองต้องการ อย่าคิดมากหรือวิตกกังวลจนทำร้ายตัวเอง เพราะตอนนี้มีมหาวิทยาลัยให้เข้าศึกษาต่อจำนวนมาก และขอฝากพ่อแม่ว่าอย่าตำหนิหรือดุด่าว่ากล่าวลูก แต่ควรให้กำลังใจ
ศ.ดร.ประสาท กล่าวต่อไปว่า จำนวนรับนักศึกษาของแอดมิชชั่นในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประกาศไว้เมื่อครั้งเปิดรับสมัครว่า จะรับประมาณ 1.2 แสนคน เป็นประมาณ 1.4 แสนคน เพราะหลังจากที่มหาวิทยาลัยมีการประกาศผลการคัดเลือกในระบบรับตรงไปแล้ว ปรากฏว่ามีเด็กจำนวนหนึ่งสละสิทธิ์ ทำให้มหาวิทยาลัยได้เด็กไม่เต็มตามจำนวนที่กำหนดไว้ จึงต้องนำที่ว่างของรับตรงมาเพิ่มในแอดมิชชั่นกลาง ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่นักเรียนที่จะมีโอกาสเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ตนเองเลือกไว้มากขึ้น ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามกติกาที่ สอท.กำหนดไว้อยู่แล้ว โดยมหาวิทยาลัยสามารถขอให้ สอท.ประกาศรับนักศึกษาเพิ่มได้ แต่ไม่สามารถขอให้ลดการรับนักศึกษาได้
“ขณะนี้มีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่คัดเลือกเด็กโดยใช้ระบบรับตรง แต่ได้เด็กไม่ตรงตามแผนที่กำหนดไว้ จึงทำให้ต้องมาเพิ่มเติมในแอดมิชชั่น ทั้งนี้เรื่องแผนการรับนักศึกษานั้น มหาวิทยาลัยทุกแห่งต้องแจ้งจำนวนรับนักศึกษาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบก่อนการรับสมัครอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความคุ้มค่าของงบประมาณแผ่นดิน เช่น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงบประมาณ และ สอท. เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าการเพิ่มจำนวนนักศึกษานั้นจะเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริต เพราะการคัดเลือกนักศึกษาผ่านระบบแอดมิชชั่นยังยึดหลักการเดิมที่ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และยืนยันว่าการแอดมิชชั่นครั้งนี้ไม่มีการฝากเด็กแน่นอน เนื่องจาก สอท.ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลการคัดเลือก” ศ.ดร.ประสาท กล่าว
