นายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ กล่าวโทษเจ้าหนี้ว่า ดึงดันให้กรีซดำเนินมาตรการปฏิรูปไร้สาระ ทำให้การเจรจาข้อตกลงเพื่อไม่ให้กรีซต้องผิดนัดชำระหนี้ไม่มีความคืบหน้า
นายกรัฐมนตรีซีปราส เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์เลอมงด์ของฝรั่งเศส ว่า การที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้จนถึงขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากกรีซไม่ยอมประนีประนอมและไม่ยอมเข้าใจอะไร แต่เกิดจากสถาบันบางแห่งดึงดันยื่นข้อเสนอปฏิรูปไร้สาระและไม่แยแสรัฐบาลที่เป็นตัวแทนประชาธิปไตยของประชาชนชาวกรีซ รัฐบาลของเขาได้อ่อนข้อให้แล้วหลายเรื่อง โดยได้ตกลงที่จะทยอยแปรรูปกิจการเป็นของเอกชนจากเดิมที่เคยคัดค้าน ตกลงที่จะปฏิรูประบบภาษีมูลค่าเพิ่มและเพิ่มอายุเกษียณ ขณะเดียวกัน ได้เสนอหารายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้นด้วยการเก็บภาษีพิเศษกับมหาเศรษฐี กวาดล้างการเลี่ยงภาษี เปิดประมูลกิจการออกอากาศกระจายเสียงและการจดทะเบียนอื่นๆ แทนการออกมาตรการรัดเข็มขัดที่จะทำให้เศรษฐกิจยิ่งถดถอยหนักกว่าเดิม
นายกรัฐมนตรีกรีซ เตือนว่า ยุโรปกำลังมาถึงทางแยกที่จะต้องเลือกระหว่างยุทธศาสตร์เพิ่มความเป็นหนึ่งเดียวหรือเพิ่มความแตกแยก ผู้ที่เลือกข้อหลังก็เพียงแค่ทำให้มีการลงโทษแรงๆ และบังคับตัดลดค่าใช้จ่าย โดยมีกรีซเป็นเหยื่อรายแรก เพราะเป็นโอกาสทองที่จะเชือดกรีซเป็นตัวอย่างให้แก่ประเทศที่อาจกำลังคิดจะไม่เดิมตามข้อบังคับใหม่ การตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในมือของสถาบันที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งและไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชน แต่อยู่ในมือของผู้นำยุโรป
ขณะที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจของกรีซ เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ในประเทศ ว่า กรีซต้องการบรรลุข้อตกลงจะได้มีเงินมาใช้จ่ายในประเทศและใช้หนี้ พร้อมกับยืนยันว่าจะรักษาสัญญาเรื่องใช้หนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) 300 ล้านยูโร หรือราว 11,000 ล้านบาท ภายในวันที่ 5 มิถุนายนนี้
นายกรัฐมนตรีซีปราส เขียนบทความลงหนังสือพิมพ์เลอมงด์ของฝรั่งเศส ว่า การที่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้จนถึงขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากกรีซไม่ยอมประนีประนอมและไม่ยอมเข้าใจอะไร แต่เกิดจากสถาบันบางแห่งดึงดันยื่นข้อเสนอปฏิรูปไร้สาระและไม่แยแสรัฐบาลที่เป็นตัวแทนประชาธิปไตยของประชาชนชาวกรีซ รัฐบาลของเขาได้อ่อนข้อให้แล้วหลายเรื่อง โดยได้ตกลงที่จะทยอยแปรรูปกิจการเป็นของเอกชนจากเดิมที่เคยคัดค้าน ตกลงที่จะปฏิรูประบบภาษีมูลค่าเพิ่มและเพิ่มอายุเกษียณ ขณะเดียวกัน ได้เสนอหารายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้นด้วยการเก็บภาษีพิเศษกับมหาเศรษฐี กวาดล้างการเลี่ยงภาษี เปิดประมูลกิจการออกอากาศกระจายเสียงและการจดทะเบียนอื่นๆ แทนการออกมาตรการรัดเข็มขัดที่จะทำให้เศรษฐกิจยิ่งถดถอยหนักกว่าเดิม
นายกรัฐมนตรีกรีซ เตือนว่า ยุโรปกำลังมาถึงทางแยกที่จะต้องเลือกระหว่างยุทธศาสตร์เพิ่มความเป็นหนึ่งเดียวหรือเพิ่มความแตกแยก ผู้ที่เลือกข้อหลังก็เพียงแค่ทำให้มีการลงโทษแรงๆ และบังคับตัดลดค่าใช้จ่าย โดยมีกรีซเป็นเหยื่อรายแรก เพราะเป็นโอกาสทองที่จะเชือดกรีซเป็นตัวอย่างให้แก่ประเทศที่อาจกำลังคิดจะไม่เดิมตามข้อบังคับใหม่ การตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในมือของสถาบันที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งและไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชน แต่อยู่ในมือของผู้นำยุโรป
ขณะที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจของกรีซ เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ในประเทศ ว่า กรีซต้องการบรรลุข้อตกลงจะได้มีเงินมาใช้จ่ายในประเทศและใช้หนี้ พร้อมกับยืนยันว่าจะรักษาสัญญาเรื่องใช้หนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) 300 ล้านยูโร หรือราว 11,000 ล้านบาท ภายในวันที่ 5 มิถุนายนนี้