เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 31 พ.ค. พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ ผบก.น.8 พ.ต.อ.วิศาล พันธุ์มณี รอง ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ตลาดพลู สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลาดพลู สน.บางยี่เรือ สน.สำเหร่ ทหารสังกัด ชป.พท.ร้อย รส.ป.พัน.19 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง จำนวน 100 นาย พร้อมยานพาหนะ 10 คัน ทำการปิดถนนราชพฤกษ์ ช่วงสะพานข้ามแยกรัชดาท่าพระฝั่งมุ่งหน้ากำนันแม้น แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. เพื่อจับกุมเด็กแว้นและสาวสก๊อยตามแผนปฏิบัติการ “ราชพฤกษ์โมเดล กวาดล้างเด็กแว้นและสาวสก๊อยป่วนเมือง”
โดยการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังและจัดจอดยานพาหนะเอาไว้ในตรอกซอกซอยแฝงตัวอยู่ตามมุมมืดเพื่อรอแก๊งมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งมารวมตัวกันบริเวณถนนกรุงธนบุรีช่วงใต้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรีเพื่อรอการแข่งขันมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ จากนั้นจึงสั่งการให้กำลังพลชุดแรกใช้รถกระบะและรถยนต์สายตรวจเปิดไซเรนไล่หลัง ส่งผลให้เด็กแว้นแตกกระจายเร่งเครื่องหลบหนีขึ้นสะพานข้ามแยกรัชดาท่าพระจะหน้ามุ่งหน้ากำนันแม้น
จากนั้นให้กำลังพลอีก 2 ชุด นำยานพาหนะเข้าสกัดกั้นปิดเชิงสะพานทั้ง 2 ฝั่ง แล้วจึงเข้าจู่โจมควบคุมตัว ส่งผลให้รถมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งนับร้อยคันถูกปิดประตูตีแมว บางคันเกี่ยวกันล้มระเนระนาด เบื้องต้นสามารถคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 425 ราย เป็นชาย 359 คน หญิง 66 คน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดนั้นอายุระหว่าง 13-30 ปี พร้อมยึดรถแต่งซิ่งของกลางไปดำเนินคดีที่ สน.ตลาดพลู ได้กว่า 200 คัน
พ.ต.อ.วิศาล พันธุ์มณี รอง ผบก.น.8 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามชื่อปฏิบัติการ “ราชพฤกษ์โมเดล กวาดล้างเด็กแว้นและสาวสก๊อยป่วนเมือง” ซึ่ง บก.น.8 วางแผนเอาไว้ประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว ตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเราปล่อยให้กลุ่มเด็กแว้นตายใจด้วยการไม่ไล่กวดจับ แต่จะมีชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่บันทึกข้อมูลบรรดามอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งที่เข้ามาใช้ทางสาธารณะแข่งขันโดยตลอด
จากการเก็บข้อมูลพบว่าเส้นทางที่มักพบการกระทำความผิดอยู่ในพื้นที่ สน.ตลาดพลู สน.บางยี่เรือ และ สน.สำเหร่ จึงมอบหมายให้ร่วมกันวางแผนกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหาร และอาสาสมัครในพื้นที่แบบลับๆ ก่อนกำหนดวันลงมือปฏิบัติการตามแผนจนสามารถทำการกวาดล้างจับกุมได้ผู้ต้องหาและของกลางจำนวนมากอย่างที่เห็น
ด้าน พ.ต.อ.มานพ กล่าวว่า วันนี้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนราว 100 นาย พร้อมยานพาหนะอีก 10 คัน ทำการปฏิบัติงานไปได้ด้วยความสำเร็จตามแผนที่วางเอาไว้นาน 3 สัปดาห์ สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมนั้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เป็นเยาวชน เบื้องต้นจะทำการสุ่มตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดหากพบใครเป็นสีม่วง จะถูกดำเนินคดี ส่วนกรณีที่ถูกจับขณะรวมตัวกันซิ่งมอเตอร์ไซค์หากสอบสวนแล้วใครเป็นผู้ขับขี่จะถูกดำเนินคดีขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และทำการเปรียบเทียบคดี พ.ร.บ.จราจรอื่นๆ อีกเช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย และดัดแปลงสภาพรถ พวกที่เป็นเยาวชนจะต้องประสานผู้ปกครองเข้ามารับทราบพฤติกรรมบุตรหลานด้วย
โดยการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังและจัดจอดยานพาหนะเอาไว้ในตรอกซอกซอยแฝงตัวอยู่ตามมุมมืดเพื่อรอแก๊งมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งมารวมตัวกันบริเวณถนนกรุงธนบุรีช่วงใต้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรีเพื่อรอการแข่งขันมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ จากนั้นจึงสั่งการให้กำลังพลชุดแรกใช้รถกระบะและรถยนต์สายตรวจเปิดไซเรนไล่หลัง ส่งผลให้เด็กแว้นแตกกระจายเร่งเครื่องหลบหนีขึ้นสะพานข้ามแยกรัชดาท่าพระจะหน้ามุ่งหน้ากำนันแม้น
จากนั้นให้กำลังพลอีก 2 ชุด นำยานพาหนะเข้าสกัดกั้นปิดเชิงสะพานทั้ง 2 ฝั่ง แล้วจึงเข้าจู่โจมควบคุมตัว ส่งผลให้รถมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งนับร้อยคันถูกปิดประตูตีแมว บางคันเกี่ยวกันล้มระเนระนาด เบื้องต้นสามารถคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 425 ราย เป็นชาย 359 คน หญิง 66 คน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดนั้นอายุระหว่าง 13-30 ปี พร้อมยึดรถแต่งซิ่งของกลางไปดำเนินคดีที่ สน.ตลาดพลู ได้กว่า 200 คัน
พ.ต.อ.วิศาล พันธุ์มณี รอง ผบก.น.8 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามชื่อปฏิบัติการ “ราชพฤกษ์โมเดล กวาดล้างเด็กแว้นและสาวสก๊อยป่วนเมือง” ซึ่ง บก.น.8 วางแผนเอาไว้ประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว ตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเราปล่อยให้กลุ่มเด็กแว้นตายใจด้วยการไม่ไล่กวดจับ แต่จะมีชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่บันทึกข้อมูลบรรดามอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งที่เข้ามาใช้ทางสาธารณะแข่งขันโดยตลอด
จากการเก็บข้อมูลพบว่าเส้นทางที่มักพบการกระทำความผิดอยู่ในพื้นที่ สน.ตลาดพลู สน.บางยี่เรือ และ สน.สำเหร่ จึงมอบหมายให้ร่วมกันวางแผนกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหาร และอาสาสมัครในพื้นที่แบบลับๆ ก่อนกำหนดวันลงมือปฏิบัติการตามแผนจนสามารถทำการกวาดล้างจับกุมได้ผู้ต้องหาและของกลางจำนวนมากอย่างที่เห็น
ด้าน พ.ต.อ.มานพ กล่าวว่า วันนี้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนราว 100 นาย พร้อมยานพาหนะอีก 10 คัน ทำการปฏิบัติงานไปได้ด้วยความสำเร็จตามแผนที่วางเอาไว้นาน 3 สัปดาห์ สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมนั้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เป็นเยาวชน เบื้องต้นจะทำการสุ่มตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดหากพบใครเป็นสีม่วง จะถูกดำเนินคดี ส่วนกรณีที่ถูกจับขณะรวมตัวกันซิ่งมอเตอร์ไซค์หากสอบสวนแล้วใครเป็นผู้ขับขี่จะถูกดำเนินคดีขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และทำการเปรียบเทียบคดี พ.ร.บ.จราจรอื่นๆ อีกเช่น ไม่สวมหมวกนิรภัย และดัดแปลงสภาพรถ พวกที่เป็นเยาวชนจะต้องประสานผู้ปกครองเข้ามารับทราบพฤติกรรมบุตรหลานด้วย