อัยการชี้แจงตำรวจยื่นขอฝากขัง เด็กแว้น 125 ราย ซิ่งจยย. ป่วนเมืองบนถนนราชพฤกษ์ แต่ศาลแขวงธนบุรียกคำร้อง เป็นเหตุให้ต้องปล่อยตัวไป แต่ยืนยันสามารถตามตัวผู้ต้องหามายื่นฟ้องคดีภายหลังได้
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด วันนี้ (3 มิ.ย.) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแถลงข่าวกรณีเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจจับกุมเด็กแว้นแข่งรถจักรยานยนต์ บนถนนราชพฤกษ์ เมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา ว่า สำนักงานอัยการคดีศาลแขวง 7 (ธนบุรี) ยังไม่ได้รับสำนวนคดีที่เจ้าหน้าตำรวจ สน.ตลาดพลู จับกุมวัยรุ่นดังกล่าว 400 คน และยึดรถจักรยานยนต์ได้ 282 คัน และรถยนต์ 1 คัน เป็นของกลาง เพื่อพิจารณา เนื่องจากเอกสารหลักฐานในสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งมายังไม่ครบถ้วน พนักงานจะสอบสวนดำเนินการขอผัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลแขวงธนบุรี และศาลได้ยกคำร้องดังกล่าว สำนวนคดีจึงยังไม่อยู่ในชั้นพิจารณาของพนักงานอัยการ และแม้ว่าศาลแขวงธนบุรีจะมีคำสั่งยกเลิกคำร้องฝากขังเป็นเหตุให้ผู้ต้องหา 125 คน ถูกปล่อยตัวไป แต่ไม่ได้หมายความว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดจะพ้นจากการกระทำผิด ซึ่งหากพนักงานสอบสวนดำเนินการทำสำนวนคดีครบถ้วน พนักงานอัยการก็สามารถแจ้งให้พนักงานสอบสวน สน.ตลาดพลู นำตัวผู้ต้องหาดังกล่าวมาฟ้องคดีในภายหลังได้ โดยขออนุญาตอัยการสูงสุดฟ้องคดีต่อไปตามกฎหมายวิธีพิจารณาในศาลแขวง ภายในอายุความ 5 ปี
นายโกศลวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนจะมีข้อหาอื่นอีกหรือไม่ ตนยังตอบไม่ได้ ตราบใดที่พนักงานอัยการยังไม่ได้รับสำนวน แต่ยืนยันว่า ในคดีที่เป็นกระทบต่อประชาชน ซึ่งประชาชนให้ความสนใจ อย่างคดีขับขี่รถจักรยานยนต์แข่งขันบนถนนหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาตนี้ เป็นคดีที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ดังนั้น การสอบสวนการพิจารณาสั่งคดีนี้ ยังต้องทำต่อไป แม้จะหมดระยะเวลาการควบคุมตัวตามกฎหมาย นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด มีความรู้สึกเป็นห่วง สั่งอัยการสำนักงานแขวง 7 (ธนบุรี) รายงานข้อเท็จจริง และให้พนักงานอัยการทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนความผิดที่ต้องดำเนินคดีกับผู้ปกครองในกรณีปล่อยปละละเลยเด็ก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก กำลังเร่งสอบสวนเอาข้อเท็จจริงมา อย่างน้อยต้องรู้ว่ารถ จยย. ของกลางเป็นกรรมสิทธิ์ของใคร โดยอัยการจะดำเนินคดีอย่างเคร่งครัดต่อไป