วันนี้ (24พ.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการคัดสรรและแต่งตั้งผู้บริหารระดับปลัดกระทรวงหลายตำแหน่งที่ว่างลงจากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ว่า ขณะนี้รัฐมนตรีที่มีหน้าที่ดูแลกระทรวงนั้นๆ และรองนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้กำกับดูแล มีการหารือคืบหน้าไประดับหนึ่งคาดว่าจะมีการนำรายชื่อบางส่วนเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้ในเร็วๆนี้
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายต่อเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารระดับปลัดกระทรวงไปว่า ต้องพิจารณาทั้งเรื่องความรู้ความสามารถและลำดับอาวุโสควบคู่กันไป รวมทั้งต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับในกระทรวงเพื่อขับเคลื่อนนโยบายได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการนำเสนอรายชื่อของกระทรวงใดให้ท่านนายกฯพิจารณา"
ในอดีตที่ผ่านมาเมื่อจะมีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ก็มักจะมีข่าวปล่อย ข่าวลือ ให้ร้ายกันภายในหน่วยงาน หรือแอบอ้างไปต่างๆนานาว่าได้รับแรงสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่คนนั้นคนนี้ แต่สำหรับในรัฐบาลชุดนี้ ต้องไม่มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลไม่เล่นการเมือง ไม่สนใจผลประโยชน์ ยึดมั่นในหลักผลประโยชน์ชาติ และการปฏิรูปประเทศเท่านั้น
"ท่านนายกฯกำชับว่าทุกอย่างต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรงไปตรงมา หากตรวจสอบพบว่ามีผู้ปล่อยข่าวสร้างกระแส เพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง และทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรและความเป็นกลางของรัฐบาล จะต้องได้รับการลงโทษตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้โดยไม่ละเว้น"
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายต่อเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารระดับปลัดกระทรวงไปว่า ต้องพิจารณาทั้งเรื่องความรู้ความสามารถและลำดับอาวุโสควบคู่กันไป รวมทั้งต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับในกระทรวงเพื่อขับเคลื่อนนโยบายได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการนำเสนอรายชื่อของกระทรวงใดให้ท่านนายกฯพิจารณา"
ในอดีตที่ผ่านมาเมื่อจะมีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูง ก็มักจะมีข่าวปล่อย ข่าวลือ ให้ร้ายกันภายในหน่วยงาน หรือแอบอ้างไปต่างๆนานาว่าได้รับแรงสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่คนนั้นคนนี้ แต่สำหรับในรัฐบาลชุดนี้ ต้องไม่มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลไม่เล่นการเมือง ไม่สนใจผลประโยชน์ ยึดมั่นในหลักผลประโยชน์ชาติ และการปฏิรูปประเทศเท่านั้น
"ท่านนายกฯกำชับว่าทุกอย่างต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรงไปตรงมา หากตรวจสอบพบว่ามีผู้ปล่อยข่าวสร้างกระแส เพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง และทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรและความเป็นกลางของรัฐบาล จะต้องได้รับการลงโทษตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้โดยไม่ละเว้น"