ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) หลังจากที่เคลื่อนไหวอย่างผันผวน ในระหว่างที่นักลงทุนรอประเมินการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงบ่าย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 53.72 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 18,232.02 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 4.76 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 2,126.06 จุด และดัชนีแนสแดค ลดลง 1.43 หรือ 0.03% ปิดที่ 5,089.36 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อหอการค้าที่โร้ดไอแลนด์ โดยนางเยลเลนระบุว่า เธอคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หากเศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มตามที่เธอคาดการณ์
อย่างไรก็ดี นางเยลเลนกล่าวย้ำว่า จังหวะในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอาจจะต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าที่อัตราดอกเบี้ยจะกลับเข้าสู่ระดับปกติ
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ นายเยลเลนกล่าวเน้นว่า กฎเกณฑ์ 2 อย่างของเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ซึ่งได้แก่ การปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน และอัตราเงินเฟ้อดีดกลับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 2% ในระยะปานกลาง “ยังไม่ได้บรรลุ"
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ WTI ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) จากแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่ปิดพุ่งแรงเมื่อวันก่อน รวมทั้งจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาน้ำมันดิบ เวสต์เทกซัส หรือไลต์สวีตครูด ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่งแรงเมื่อวันก่อน หลังข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐได้ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 482.2 ล้านบาร์เรล หรือลดลง 90.9 ล้านบาร์เรลจากปีก่อน ในขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐลดลง 112,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 9.262 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ในขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากนางเยลเลนระบุว่า เธอคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หากเศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มตามที่เธอคาดการณ์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ยังมีความเป็นไปได้หากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นตามที่เธอได้คาดไว้
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ (COMEX-Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 0.1 ดอลลาร์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,204.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ปิดบวก 2 สัปดาห์ติดต่อกัน แต่ลดลง 1.73% ในสัปดาห์นี้
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อหอการค้าที่โร้ดไอแลนด์ นางเยลเลนระบุว่า เธอคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หากเศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มตามที่เธอคาดการณ์
“หากเศรษฐกิจยังคงปรับตัวดีขึ้นตามที่ดิฉันคาดไว้ ฉันคิดว่าจะมีบางจุดที่เหมาะสมภายในปีนี้ในการดำเนินการขั้นแรกเพื่อปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น"
คำพูดของนางเยลเลนส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับทองคำซึ่งซื้อขายเป็นสกุลเงินดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 53.72 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 18,232.02 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 4.76 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 2,126.06 จุด และดัชนีแนสแดค ลดลง 1.43 หรือ 0.03% ปิดที่ 5,089.36 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อหอการค้าที่โร้ดไอแลนด์ โดยนางเยลเลนระบุว่า เธอคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หากเศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มตามที่เธอคาดการณ์
อย่างไรก็ดี นางเยลเลนกล่าวย้ำว่า จังหวะในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอาจจะต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าที่อัตราดอกเบี้ยจะกลับเข้าสู่ระดับปกติ
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ นายเยลเลนกล่าวเน้นว่า กฎเกณฑ์ 2 อย่างของเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ซึ่งได้แก่ การปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน และอัตราเงินเฟ้อดีดกลับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 2% ในระยะปานกลาง “ยังไม่ได้บรรลุ"
ด้านสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ WTI ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) จากแรงเทขายทำกำไรหลังจากที่ปิดพุ่งแรงเมื่อวันก่อน รวมทั้งจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาน้ำมันดิบ เวสต์เทกซัส หรือไลต์สวีตครูด ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่งแรงเมื่อวันก่อน หลังข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐได้ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
รายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 482.2 ล้านบาร์เรล หรือลดลง 90.9 ล้านบาร์เรลจากปีก่อน ในขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันของสหรัฐลดลง 112,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 9.262 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ในขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากนางเยลเลนระบุว่า เธอคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หากเศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มตามที่เธอคาดการณ์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ยังมีความเป็นไปได้หากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นตามที่เธอได้คาดไว้
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ (COMEX-Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 0.1 ดอลลาร์ หรือ 0.01% ปิดที่ 1,204.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ปิดบวก 2 สัปดาห์ติดต่อกัน แต่ลดลง 1.73% ในสัปดาห์นี้
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อหอการค้าที่โร้ดไอแลนด์ นางเยลเลนระบุว่า เธอคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หากเศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มตามที่เธอคาดการณ์
“หากเศรษฐกิจยังคงปรับตัวดีขึ้นตามที่ดิฉันคาดไว้ ฉันคิดว่าจะมีบางจุดที่เหมาะสมภายในปีนี้ในการดำเนินการขั้นแรกเพื่อปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น"
คำพูดของนางเยลเลนส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับทองคำซึ่งซื้อขายเป็นสกุลเงินดอลลาร์