พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในทำนองเป็นความพยายามจากหลายฝ่าย ในการเข้ายึดอำนาจจากกลุ่มของอดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการพูดเรื่องเก่าๆ อ้างเหตุผลเลื่อนลอยตามความเชื่อของตัวเอง และเอาผลประโยชน์ของตนเองและเครือข่ายเป็นที่ตั้ง โดยไม่ได้ใส่ใจกับความเสียหายของบ้านเมือง ในช่วงเวลาที่ตนและเครือญาติขึ้นมามีอำนาจทางการเมือง
ทั้งนี้ ทุกเรื่องที่อดีตนายกรัฐมนตรีพูด มองตนเองเป็นเสมือนศูนย์กลางของจักรวาล เห็นคนอื่นเป็นฝ่ายตรงข้ามโดยไม่สนใจข้อเท็จจริงว่า ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในตำแหน่ง มีการทุจริตคอร์รับชั่นมากเพียงใด มีการใช้อำนาจรัฐในทางมิชอบมากเพียงใด และสร้างให้เกิดความแตกแยกในสังคมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนแผ่นดินไทยเพียงใด และการกล่าวให้ร้ายบุคคลอื่น และประเทศชาติ เป็นสิ่งที่อดีตนายกต้องรับผิดชอบ ไม่ควรอาศัยโอกาสที่อยู่ต่างประเทศพูดโดยไร้ความรับผิดชอบ
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ประชาชนคนไทยทุกคนเข้าใจดีว่า ทำไมทหารต้องออกมารับผิดชอบบ้านเมืองในขณะนั้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นต้องตัดสินใจ และไม่มีใครสามารถมาชี้นำหรือกำหนดการปฏิบัติให้ได้ เพราะท่านเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดต่อผลของทุกสิ่งที่ได้ตัดสินใจลงไป
ทั้งนี้ ความสงบสุขที่เกิดขึ้นในประเทศตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์การกระทำของ คสช.และรัฐบาล เพราะเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจว่าใครสมควรจะได้รับการยอมรับ โดยดูที่การกระทำป็นหลัก มิใช่พิจารณาจากวาทกรรม ซึ่งอาจปั้นแต่งให้สวยหรูแต่อาจจะตรงข้ามกับการกระทำโดยสิ้นเชิง
ทั้งนี้ ทุกเรื่องที่อดีตนายกรัฐมนตรีพูด มองตนเองเป็นเสมือนศูนย์กลางของจักรวาล เห็นคนอื่นเป็นฝ่ายตรงข้ามโดยไม่สนใจข้อเท็จจริงว่า ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในตำแหน่ง มีการทุจริตคอร์รับชั่นมากเพียงใด มีการใช้อำนาจรัฐในทางมิชอบมากเพียงใด และสร้างให้เกิดความแตกแยกในสังคมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนแผ่นดินไทยเพียงใด และการกล่าวให้ร้ายบุคคลอื่น และประเทศชาติ เป็นสิ่งที่อดีตนายกต้องรับผิดชอบ ไม่ควรอาศัยโอกาสที่อยู่ต่างประเทศพูดโดยไร้ความรับผิดชอบ
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ประชาชนคนไทยทุกคนเข้าใจดีว่า ทำไมทหารต้องออกมารับผิดชอบบ้านเมืองในขณะนั้น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นต้องตัดสินใจ และไม่มีใครสามารถมาชี้นำหรือกำหนดการปฏิบัติให้ได้ เพราะท่านเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดต่อผลของทุกสิ่งที่ได้ตัดสินใจลงไป
ทั้งนี้ ความสงบสุขที่เกิดขึ้นในประเทศตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์การกระทำของ คสช.และรัฐบาล เพราะเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจว่าใครสมควรจะได้รับการยอมรับ โดยดูที่การกระทำป็นหลัก มิใช่พิจารณาจากวาทกรรม ซึ่งอาจปั้นแต่งให้สวยหรูแต่อาจจะตรงข้ามกับการกระทำโดยสิ้นเชิง