ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.เปิดให้สมาชิก สนช.อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ซึ่งสมาชิกเกือบทั้งหมดเห็นด้วยกับยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณของรัฐบาล สำหรับการลงทุนโครงสร้างขั้นพื้นฐาน งบประมาณการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ตลอดจนงบประมาณด้านการศึกษา
โดยนายสมบูรณ์ งามลักษณ์ สมาชิก สนช. กล่าวว่า เห็นด้วยกับงบประมาณปี 2559 โดยเฉพาะที่รัฐบาลเพิ่มงบการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับงบประมาณที่ผ่านมาถือว่าสูง ซึ่งงบลงทุนนี้จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไปบรรยายที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องโครงสร้างพื้นฐานการคมขนส่งยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศในการลงทุนในประเทศไทย ในระหว่างที่เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม อย่าไปกังวลในเรื่องหนี้สาธารณะ ซึ่งประเทศไทยมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ร้อย 46 ถือว่าต่ำกว่าเพดานที่กำหนดไว้ และเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอในการชี้หนี้ เพราะสถานะทางการเงินมั่นคง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองยืนยันว่า เรามีเงินคลคลังเหลืออยู่เยอะ
ด้าน นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช.อภิปรายว่า งบบปี 59 ครอบคลุมทุกหน่วยงานทั้งหมดยกเว้น 1 หน่วยงาน ที่ทำงบไม่ผ่านรัฐสภา และเป็นหน่วยงานอิสระคือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นไปตาม พ.ร.บ.กสทช. มาตรา 57 โดยในปี 56 กสทช.ตั้งงบประมาณใช้ไป 2,519 ล้านบาท ปี 57 ใช้ไป 4,601 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการใช้งบประมาณจำนวนที่มาก หากไม่ผ่านการตรวจสอบจะมีปัญหาเรื่องความโปร่งใจ ตนจึงอยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว (2557) สั่งการให้ กสทช.จัดทำแผนงบประมาณเสนอต่อรัฐสภา หรือหากไม่ทันก็ให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีก็ได้
โดยนายสมบูรณ์ งามลักษณ์ สมาชิก สนช. กล่าวว่า เห็นด้วยกับงบประมาณปี 2559 โดยเฉพาะที่รัฐบาลเพิ่มงบการลงทุนเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับงบประมาณที่ผ่านมาถือว่าสูง ซึ่งงบลงทุนนี้จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไปบรรยายที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องโครงสร้างพื้นฐานการคมขนส่งยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศในการลงทุนในประเทศไทย ในระหว่างที่เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม อย่าไปกังวลในเรื่องหนี้สาธารณะ ซึ่งประเทศไทยมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ร้อย 46 ถือว่าต่ำกว่าเพดานที่กำหนดไว้ และเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอในการชี้หนี้ เพราะสถานะทางการเงินมั่นคง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองยืนยันว่า เรามีเงินคลคลังเหลืออยู่เยอะ
ด้าน นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิก สนช.อภิปรายว่า งบบปี 59 ครอบคลุมทุกหน่วยงานทั้งหมดยกเว้น 1 หน่วยงาน ที่ทำงบไม่ผ่านรัฐสภา และเป็นหน่วยงานอิสระคือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นไปตาม พ.ร.บ.กสทช. มาตรา 57 โดยในปี 56 กสทช.ตั้งงบประมาณใช้ไป 2,519 ล้านบาท ปี 57 ใช้ไป 4,601 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการใช้งบประมาณจำนวนที่มาก หากไม่ผ่านการตรวจสอบจะมีปัญหาเรื่องความโปร่งใจ ตนจึงอยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว (2557) สั่งการให้ กสทช.จัดทำแผนงบประมาณเสนอต่อรัฐสภา หรือหากไม่ทันก็ให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีก็ได้