สบน. เผยสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 58 หนี้สาธารณะของไทยอยู่ที่ระดับ 5.7 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 46.83 ของจีดีพี เตรียมจัดหาเงินกู้ 10,000 ล้านบาท ใช้ในโครงการบริหารจัดการน้ำและถนน ระบุหากจีดีพีปรับตัวลง 100,000 ล้านบาท จะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 แต่จะไม่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ เนื่องจากหนี้ที่เกิดขึ้นเป็นหนี้คุณภาพที่ใช้ในการลงทุน
นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ในฐานะโฆษก กล่าวว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้างสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 5.7ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.83 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 62,366.22 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้น 73,393.51 ล้านบาท เพื่อใช้ชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 50,859.81 ล้านบาท การกู้เงินเพื่อการลงทุน 2,512.04 ล้านบาท และการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลล่วงหน้า ที่จะครบกำหนดวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 จำนวน 10,000 ล้านบาท
สำหรับหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน มียอดหนี้คงค้างลดลง 4,569.18 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินลดลง 5,525.80 ล้านบาท หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐมียอดหนี้คงค้างลดลง 932.31 ล้านบาท โดยยอดหนี้คงค้างที่ลดลง เนื่องจากมีการชำระคืนมากกว่าเบิกจ่ายเงินกู้ และผลจากอัตราแลกเปลี่ยน
นายธีรัชย์ กล่าวว่า หนี้สาธารณะสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ แม้จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ร้อยละ 60 ของจีดีพี นอกจากนี้ สบน.ได้เตรียมจัดหาเงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศเพื่อใช้ในโครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการพัฒนาถนนนระยะเร่งด่วน
ทั้งนี้ คาดว่าจะดำเนินการกู้ล็อตแรก 10,000 ล้านบาท เพื่อใช้ดำเนินโครงการในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2558 (เม.ย.-มิ.ย.58) ส่วนแนวโน้มหนี้สาธารณะยังอยู่ในระดับทรงตัว โดยประมาณการว่าหากจีดีพีปี 2558 โตร้อยละ 3.5 และเงินเฟ้อร้อยละ 0.8 หนี้สาธารณะสิ้นปีจะอยู่ที่ร้อยละ 48.9 ของจีดีพี แต่หากจีดีพีปรับตัวลง 100,000 ล้านบาท จะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 แต่จะไม่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ เนื่องจากหนี้ที่เกิดขึ้นเป็นหนี้คุณภาพที่ใช้ในการลงทุน
