รัฐบาลสหรัฐฯตั้งข้อหาจารกรรมทางเศรษฐกิจต่อบุคคลสัญชาติจีนรวม 6 คนในจำนวนนี้เป็นศาสตราจารย์ 3 คนจากมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของแดนมังกร โดยระบุว่าคนเหล่านี้ขโมยความลับทางการค้าเกี่ยวกับเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือจากบริษัท 2 แห่ง เพื่อผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัยและรัฐวิสาหกิจที่ควบคุมโดยปักกิ่ง ทั้งนี้ตามการแถลงของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯในวันอังคาร (19 พ.ค.) ขณะที่ทางการจีนระบุในวันพุธ (20) ว่า “มีความกังวลอย่างแรงกล้า” เกี่ยวกับเรื่องนี้
ในคำฟ้องคดีอาญารวม 32 กระทงภายใต้กฎหมายการจารกรรมข้อมูลเศรษฐกิจปี 1996 ที่ฝ่ายอัยการสหรัฐฯยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาแต่เพิ่งเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (19) นั้น ระบุว่า หนึ่งในบุคคลที่ถูกกล่าวหาคือ ศาสตราจารย์เฮ่า จาง ที่ถูกจับกุมเมื่อวันเสาร์ (16) ขณะเดินทางถึงสนามบินลอสแองเจลีส ส่วนอีก 5 คนคาดว่ายังอยู่ในจีน
บุคคลทั้งหมดนี้อาจถูกจำคุกนานถึง 50 ปี หากศาลตัดสินว่า มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาซึ่งมีทั้ง การจารกรรมข้อมูลเศรษฐกิจ ขโมยความลับทางการค้า และสมรู้ร่วมคิด เป็นต้น
คำฟ้องของฝ่ายอัยการบรรยายว่า แผนการของคนเหล่านี้คือขโมยเทคโนโลยี FBAR ที่โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อื่นๆ ใช้ในการกรองสัญญาณวิทยุและปรับปรุงประสิทธิภาพ จากนั้นก็แอบอ้างว่าพวกเขาเป็นผู้พัฒนาเพื่อยื่นขอสิทธิบัตรทั้งในอเมริกาและจีน
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า จำเลยเหล่านี้วางแผนขายส่วนประกอบ FBAR ให้แก่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือชั้นนำ อาทิ ซัมซุง โดยคาดการณ์ว่า ตลาดส่วนนี้มีมูลค่าถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2006
เมลินดา แฮ็ก อัยการสหรัฐฯ แถลงว่า คดีนี้ตอกย้ำว่า เทคโนโลยีอ่อนไหวที่พัฒนาโดยบริษัทอเมริกันยังคงเสี่ยงถูกโจรกรรมภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลต่างชาติ
เดวิด จอห์นสัน เจ้าหน้าที่พิเศษของสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ในซานฟรานซิสโก ขานรับว่า แผนการนี้เป็นความพยายามอย่างเป็นระบบและอดทนโดยต่างชาติที่ต้องการขโมยเทคโนโลยีมีค่าของอเมริกาเพื่อนำไปแสวงหาผลประโยชน์โดยการใช้บุคคลที่ดำเนินการอยู่ในอเมริกา
ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่อเมริกากล่าวหาคนจีนจารกรรมข้อมูลเศรษฐกิจในนามรัฐบาลจีน และเรื่องนี้อาจทำให้วอชิงตันและปักกิ่งหมางใจกันอีก หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งเดินทางเยือนปักกิ่ง และออกปากแสดงความกังวลเรื่องกิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้
ในคำฟ้องคดีอาญารวม 32 กระทงภายใต้กฎหมายการจารกรรมข้อมูลเศรษฐกิจปี 1996 ที่ฝ่ายอัยการสหรัฐฯยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาแต่เพิ่งเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (19) นั้น ระบุว่า หนึ่งในบุคคลที่ถูกกล่าวหาคือ ศาสตราจารย์เฮ่า จาง ที่ถูกจับกุมเมื่อวันเสาร์ (16) ขณะเดินทางถึงสนามบินลอสแองเจลีส ส่วนอีก 5 คนคาดว่ายังอยู่ในจีน
บุคคลทั้งหมดนี้อาจถูกจำคุกนานถึง 50 ปี หากศาลตัดสินว่า มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาซึ่งมีทั้ง การจารกรรมข้อมูลเศรษฐกิจ ขโมยความลับทางการค้า และสมรู้ร่วมคิด เป็นต้น
คำฟ้องของฝ่ายอัยการบรรยายว่า แผนการของคนเหล่านี้คือขโมยเทคโนโลยี FBAR ที่โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อื่นๆ ใช้ในการกรองสัญญาณวิทยุและปรับปรุงประสิทธิภาพ จากนั้นก็แอบอ้างว่าพวกเขาเป็นผู้พัฒนาเพื่อยื่นขอสิทธิบัตรทั้งในอเมริกาและจีน
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า จำเลยเหล่านี้วางแผนขายส่วนประกอบ FBAR ให้แก่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือชั้นนำ อาทิ ซัมซุง โดยคาดการณ์ว่า ตลาดส่วนนี้มีมูลค่าถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2006
เมลินดา แฮ็ก อัยการสหรัฐฯ แถลงว่า คดีนี้ตอกย้ำว่า เทคโนโลยีอ่อนไหวที่พัฒนาโดยบริษัทอเมริกันยังคงเสี่ยงถูกโจรกรรมภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลต่างชาติ
เดวิด จอห์นสัน เจ้าหน้าที่พิเศษของสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ในซานฟรานซิสโก ขานรับว่า แผนการนี้เป็นความพยายามอย่างเป็นระบบและอดทนโดยต่างชาติที่ต้องการขโมยเทคโนโลยีมีค่าของอเมริกาเพื่อนำไปแสวงหาผลประโยชน์โดยการใช้บุคคลที่ดำเนินการอยู่ในอเมริกา
ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่อเมริกากล่าวหาคนจีนจารกรรมข้อมูลเศรษฐกิจในนามรัฐบาลจีน และเรื่องนี้อาจทำให้วอชิงตันและปักกิ่งหมางใจกันอีก หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งเดินทางเยือนปักกิ่ง และออกปากแสดงความกังวลเรื่องกิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้