นายมานูเอล วาลล์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เรียกร้องให้สหภาพยุโรป (อียู) จัดตั้งระบบควบคุมพรมแดนของชาติสมาชิก และให้กำหนดโควตาผู้อพยพที่ชาติสมาชิกต้องรับภาระให้เป็นธรรมกว่านี้
นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวที่เมืองมองตง เมืองเล็กๆ ใกล้ชายแดนติดกับอิตาลี ว่า อียูควรมีระบบควบคุมบริเวณชายแดนของชาติสมาชิกให้มีประสิทธิภาพ ขณะที่ไม่เห็นด้วยให้กำหนดโควตาผู้อพยพให้แต่ละชาติสมาชิกสหภาพยุโรปรับภาระ แต่เสนอให้มีการเกลี่ยจำนวนผุ้อพยพให้เสมอภาคกันมากกว่าที่เป็นอยู่
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีผู้อพยพมาอยู่บริเวณชายแดนติดกับอิตาลีเพื่อเดินทางมายังฝรั่งเศสเกือบ 1,000 คน โดยในจำนวนนี้ได้เล็ดลอดไปยังเมืองนีซ โดยทางรถไฟวันละประมาณ 100 คน
ปัจจุบันฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี สวีเดน และสหราชอาณาจักร รวมกันรับดูแลผู้อพยพที่ต้องการมาอาศัยอยู่ในยุโรปราวร้อยละ 75
นอกจากฝรั่งเศสแล้ว อังกฤษก็เป็นอีกชาติหนึ่งที่คัดค้านการกำหนดโควตาให้แต่ละชาดิต้องรับภาระ
นายวาลล์ ย้ำว่า ยุโรปต้องรับภาระผู้อพยพหลังจากมีผู้อพยพกว่า 3,000 คน เสียชีวิตในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อปีที่แล้วขณะลอยเรือจากแอฟริกาและตะวันออกกลางมุ่งหน้ามาลี้ภัยในยุโรป ซึ่งผู้อพยพเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือให้ขึ้นฝั่งได้ราว 170,000 คน ขณะที่เมื่อวานนี้ผู้อพยพกว่า 400 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็ก 16 และผู้หญิง 136 คนได้มาขึ้นฝั่งที่เกาะซิซิลีของอิตาลี หลังได้รับความช่วยเหลือจากเรือกู้ภัยขององค์กรแพทย์ไร้พรมแดน และองค์กรช่วยเหลือผู้อพยพบริเวณชายฝั่ง ผู้อพยพส่วนใหญ่เป็นชาวเอริเทรีย โซมาเลีย แกมเบีย และซีเรีย ซึ่งส่วนใหญ่มีสุขภาพดี มีเพียง 80 คนที่เป็นโรคผิวหนัง
นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวที่เมืองมองตง เมืองเล็กๆ ใกล้ชายแดนติดกับอิตาลี ว่า อียูควรมีระบบควบคุมบริเวณชายแดนของชาติสมาชิกให้มีประสิทธิภาพ ขณะที่ไม่เห็นด้วยให้กำหนดโควตาผู้อพยพให้แต่ละชาติสมาชิกสหภาพยุโรปรับภาระ แต่เสนอให้มีการเกลี่ยจำนวนผุ้อพยพให้เสมอภาคกันมากกว่าที่เป็นอยู่
ทั้งนี้ มีรายงานว่าในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีผู้อพยพมาอยู่บริเวณชายแดนติดกับอิตาลีเพื่อเดินทางมายังฝรั่งเศสเกือบ 1,000 คน โดยในจำนวนนี้ได้เล็ดลอดไปยังเมืองนีซ โดยทางรถไฟวันละประมาณ 100 คน
ปัจจุบันฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี สวีเดน และสหราชอาณาจักร รวมกันรับดูแลผู้อพยพที่ต้องการมาอาศัยอยู่ในยุโรปราวร้อยละ 75
นอกจากฝรั่งเศสแล้ว อังกฤษก็เป็นอีกชาติหนึ่งที่คัดค้านการกำหนดโควตาให้แต่ละชาดิต้องรับภาระ
นายวาลล์ ย้ำว่า ยุโรปต้องรับภาระผู้อพยพหลังจากมีผู้อพยพกว่า 3,000 คน เสียชีวิตในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อปีที่แล้วขณะลอยเรือจากแอฟริกาและตะวันออกกลางมุ่งหน้ามาลี้ภัยในยุโรป ซึ่งผู้อพยพเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือให้ขึ้นฝั่งได้ราว 170,000 คน ขณะที่เมื่อวานนี้ผู้อพยพกว่า 400 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็ก 16 และผู้หญิง 136 คนได้มาขึ้นฝั่งที่เกาะซิซิลีของอิตาลี หลังได้รับความช่วยเหลือจากเรือกู้ภัยขององค์กรแพทย์ไร้พรมแดน และองค์กรช่วยเหลือผู้อพยพบริเวณชายฝั่ง ผู้อพยพส่วนใหญ่เป็นชาวเอริเทรีย โซมาเลีย แกมเบีย และซีเรีย ซึ่งส่วนใหญ่มีสุขภาพดี มีเพียง 80 คนที่เป็นโรคผิวหนัง
