พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานกล่าวเปิดงานสัมมนาความร่วมมือเพื่อการพัฒนาด้านการโยกย้ายถิ่นฐาน (The Development Cooperation Seminar on Migration) โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วม
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ในภูมิภาคเป็นจำนวนมาก บางส่วนได้จ่ายเงินให้กับขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายเพื่อให้นำตัวเองไปสู่ประเทศปลายทาง แต่พบว่าส่วนใหญ่กลับถูกทอดทิ้งและเสียชีวิตในที่สุด เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการไทยได้ค้นหาและทลายค่ายของขบวนการดังกล่าว ที่ จ.สงขลา และพังงา ซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญสูงสุดกับปัญหานี้ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศว่าจะลงโทษอย่างสูงสุดแก่ผู้ที่กระทำผิด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกหมายจับผู้ต้องหากว่า 61 คน รวมถึงอดีตผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งในจำนวนนี้ได้ถูกจับกุมตัวแล้ว 19 คน และตำรวจกว่า 50 นาย ถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งและกำลังถูกสอบสวนถึงความเกี่ยวข้องในขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ประเทศไทยไม่สามารถขจัดปัญหานี้ได้ด้วยตนเอง จึงขอเรียกร้องให้ประเทศต้นทาง ประเทศทางผ่าน และประเทศปลายทาง ทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกที่ต้องแก้ไขตั้งแต่รากเหง้า ผ่านการร่วมมือกับหุ้นส่วน ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของผู้โยกย้ายถิ่นฐาน รวมถึงแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์
นอกจากนี้ หวังว่ามิตรประเทศในองค์การสหประชาชาติจะให้การสนับสนุนประเทศไทย ถึงแม้ว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่สามารถหาทางออกในช่วงเวลาอันสั้น แต่คาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อไป
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ในภูมิภาคเป็นจำนวนมาก บางส่วนได้จ่ายเงินให้กับขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายเพื่อให้นำตัวเองไปสู่ประเทศปลายทาง แต่พบว่าส่วนใหญ่กลับถูกทอดทิ้งและเสียชีวิตในที่สุด เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการไทยได้ค้นหาและทลายค่ายของขบวนการดังกล่าว ที่ จ.สงขลา และพังงา ซึ่งรัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญสูงสุดกับปัญหานี้ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศว่าจะลงโทษอย่างสูงสุดแก่ผู้ที่กระทำผิด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกหมายจับผู้ต้องหากว่า 61 คน รวมถึงอดีตผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งในจำนวนนี้ได้ถูกจับกุมตัวแล้ว 19 คน และตำรวจกว่า 50 นาย ถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งและกำลังถูกสอบสวนถึงความเกี่ยวข้องในขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ประเทศไทยไม่สามารถขจัดปัญหานี้ได้ด้วยตนเอง จึงขอเรียกร้องให้ประเทศต้นทาง ประเทศทางผ่าน และประเทศปลายทาง ทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกที่ต้องแก้ไขตั้งแต่รากเหง้า ผ่านการร่วมมือกับหุ้นส่วน ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของผู้โยกย้ายถิ่นฐาน รวมถึงแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์
นอกจากนี้ หวังว่ามิตรประเทศในองค์การสหประชาชาติจะให้การสนับสนุนประเทศไทย ถึงแม้ว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่สามารถหาทางออกในช่วงเวลาอันสั้น แต่คาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อไป