“สมยศ” ผบ.ตร.จวกองค์กรสากลเอาแต่ตำหนิไม่เคยยื่นมือช่วยเหลือปัญหาโรฮีนจา ระบุประเทศไทยเร่งจัดการอย่างจริงจัง
วันนี้ (14 พ.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึงการดำเนินแก้ปัญหาขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจาว่า ตนได้พูดคุยกับ ผบ.ตร.มาเลเซีย และได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ร่วมกันระหว่างทางการไทยกับมาเลเซีย โดยขณะนี้รัฐบาลไทยกำลังเร่งจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง ทั้งชาวโรฮีนจาที่กำลังเดินทางเข้ามาและตกค้างอยู่ในประเทศ ทั้งการสร้างที่พักพิงตามเกาะต่างๆ หรือบนฝั่ง ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลคำนึงถึงกฎหมายและสนธิสัญญาต่างๆ ที่มีร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้าน
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่าประเทศไทยไม่เปิดรับชาวโรฮีนจาที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายหรือใช้ไทยเป็นทางผ่านอีกต่อไป โดยเราจะดูแลชาวโรฮีนจาที่ตกค้างอยู่เท่านั้นโดยให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม หาที่พักพิงและเลี้ยงดู แต่ปัญหาดังกล่าวสะสมมานานสร้างภาระให้แก่ประเทศไทย ขณะที่องค์กรสากลต่างๆ ก็ได้แต่ตำหนิประเทศไทยในเรื่องนี้ แต่ไม่เคยมาเหลียวแลหรือยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้านงบประมาณหรือด้านอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย ทิ้งภาระให้ประเทศไทยต้องแบกรับเลี่ยงดูคนกลุ่มนี้ที่จากตอนนี้มี 100-200 คน แต่นานวันเข้าก็ออกลูกออกหลานกลายเป็น 1,000-2,000 คน
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า อีกปัญหาสำคัญเรื่องชาวโรฮีนจาหลบหนีเข้าเมืองคือประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นต้นทางของคนกลุ่มนี้ ไม่ยอบรับว่าชาวโรฮีนจาเป็นคนในประเทศของเขา จึงเป็นเรื่องยากที่จะแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ส่งผู้ช่วยทูตตำรวจประสานงานกับหน่วยงานของประเทศเพื่อนบ้านเกี่ยวกับการหารือแก้ปัญหาขบวนการค้ามนุษย์นี้ร่วมกัน ทั้งยังให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่างคำสั่งให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามชายแดนตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงไปจนถึงประเทศมาเลเซียรับผิดชอบป้องกันชาวโรฮีนจาลักลอบเข้าเมือง โดยตอนนี้ตำรวจได้ป้องกันเข้มงวดตามแนวชายแดนบริเวณพื้นที่ดังกล่าวไม่ให้เข้ามาได้ และพบว่าหลังไทยมีมาตรการเข้มงวดทำให้ขบวนการค้ามนุษย์หยุดเคลื่อนไหวชั่วคราว โดยทางการข่าวพบเพียงกลุ่มที่เดินทางออกมาแล้วยังลอยลำรอขึ้นฝั่งอยู่กลางทะเลจำนวนหนึ่ง
“การแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังต้องให้รัฐบาลเป็นแม่งานใหญ่ ระดมทุกหน่วยงานเข้ามาร่วมจัดการปัญหานี้ด้วยกัน ทั้งกองทัพเรือ กองทัพบก ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปฏิบัติงานร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ปัญหาชาวโรฮีนจาไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับปัญหาชาวเวียดนามในสมัยสงครามเวียดนามที่หลบเข้ามาอยู่ในไทย เพราะหลังสงครามสงบประเทศเวียดนามได้รับคนเหล่านั้นกลับไปประเทศเขา แต่ปัญหาตอนนี้ไม่เหมือนกัน เพราะประเทศที่ชาวโรฮีนจาหนีมาไม่ยอมรับพวกเขา” ผบ.ตร.กล่าวและว่า ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย เรื่องนี้เป็นปัญหาระดับภูมิภาค เกิดขึ้นมานานแล้ว ต้องให้ทุกหน่วยงานเข้ามาช่วยแก้ไขทั้งภาครัฐในหลายประเทศและองค์กรสากลต่างๆ ด้วย" ผบ.ตร.ระบุ
