นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับกรณีที่มีผู้เสนอคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทำประชามติประเด็นปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการยืดระยะเวลา ซึ่งไม่เป็นไปตามโรดแมปที่ คสช.ได้วางไว้ โดยเห็นว่าหากประเด็นใดที่จะกระทบต่อกรอบการทำงานควรเป็นหน้าที่ของ คสช.ที่จะไปพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557
ขณะที่การทำคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่มีกระแสข่าวระบุว่า ในหนึ่งกลุ่มบางประเด็นไม่ได้รับความยินยอมจาก สปช.ทุกคนในกลุ่ม แต่แบ่งเป็นเสียงข้างมากข้างน้อยแล้วได้ส่งประเด็นคำขอแก้ไขให้กรรมาธิการยกร่างฯ พิจารณาตัดสินใจนั้น ตนมองว่าประเด็นดังกล่าวอาจถูกนำไปเป็นข้อท้วงติงว่า การเสนอคำขอนั้นไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 กำหนด และทำให้คำขอทั้งกลุ่มตกไป
อย่างไรก็ตาม มี สปช.บางคนได้เข้ามาสอบถามกับ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างฯ ถึงเงื่อนไขการทำคำขอแก้ไขเพิ่มเติมด้วย ซึ่งส่วนมองว่า ในหลักการของการแปรญัตติต้องได้รับความเห็นร่วมกัน และประเด็นต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันไม่ใช้ในลักษณะเสียงข้างมากข้างน้อย
ขณะที่การทำคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่มีกระแสข่าวระบุว่า ในหนึ่งกลุ่มบางประเด็นไม่ได้รับความยินยอมจาก สปช.ทุกคนในกลุ่ม แต่แบ่งเป็นเสียงข้างมากข้างน้อยแล้วได้ส่งประเด็นคำขอแก้ไขให้กรรมาธิการยกร่างฯ พิจารณาตัดสินใจนั้น ตนมองว่าประเด็นดังกล่าวอาจถูกนำไปเป็นข้อท้วงติงว่า การเสนอคำขอนั้นไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 กำหนด และทำให้คำขอทั้งกลุ่มตกไป
อย่างไรก็ตาม มี สปช.บางคนได้เข้ามาสอบถามกับ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างฯ ถึงเงื่อนไขการทำคำขอแก้ไขเพิ่มเติมด้วย ซึ่งส่วนมองว่า ในหลักการของการแปรญัตติต้องได้รับความเห็นร่วมกัน และประเด็นต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันไม่ใช้ในลักษณะเสียงข้างมากข้างน้อย