ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) ขานรับข้อมูลที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนตลาดดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 82.08 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 17,924.06 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 7.85 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 2,088.00 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 25.91 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 4,945.55 จุด
นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกในวันพฤหัสบดี คือการลดลงของราคาน้ำมันดิบไปอยู่ต่ำกว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลอีกครั้ง และการลดลงของผลตอบแทนของพันธบัตรช่วยผ่อนคลายความกังวลให้นักลงทุน
ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นของบริษัท อาลีบาบา ของจีนก็เพิ่มขึ้น 7.5% หลังเปิดเผยว่า ยอดขายประจำไตรมาสเพิ่มขึ้น 45% ไปอยู่ที่ 2.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และประกาศเปลี่ยนตัวประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารจากนายโจนาธาน ลู เป็นนายแดเนียล จาง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) ตลาดไนเม็กซ์นิวยอร์ก ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าอุปทานน้ำมันในสหรัฐชะลอตัวลง
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันทั้งสองสัญญาทำสถิติปิดสูงสุดในรอบปีเมื่อวันพุธ(6พ.ค.) หลังข้อมูลกระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยคลังน้ำมันดิบสำรองรายสัปดาห์ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าแม้จะลดลง 3.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สต๊อกน้ำมันดิบก็ยังอยู่ที่ 487.0 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยพบมาหากนับเฉพาะในช่วงเวลานี้ของปี
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ
ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,182.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น เพิ่มขึ้น 0.51% แตะที่ 94.64 ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐยังกดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 2 พ.ค. เพิ่มขึ้น 3,000 ราย แตะ 265,000 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 275,000 ราย
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยคาดว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้ประกอบการตัดสินใจว่าควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้หรือไม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 82.08 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 17,924.06 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 7.85 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 2,088.00 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 25.91 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 4,945.55 จุด
นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกในวันพฤหัสบดี คือการลดลงของราคาน้ำมันดิบไปอยู่ต่ำกว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรลอีกครั้ง และการลดลงของผลตอบแทนของพันธบัตรช่วยผ่อนคลายความกังวลให้นักลงทุน
ขณะเดียวกัน ราคาหุ้นของบริษัท อาลีบาบา ของจีนก็เพิ่มขึ้น 7.5% หลังเปิดเผยว่า ยอดขายประจำไตรมาสเพิ่มขึ้น 45% ไปอยู่ที่ 2.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และประกาศเปลี่ยนตัวประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารจากนายโจนาธาน ลู เป็นนายแดเนียล จาง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) ตลาดไนเม็กซ์นิวยอร์ก ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่าอุปทานน้ำมันในสหรัฐชะลอตัวลง
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันทั้งสองสัญญาทำสถิติปิดสูงสุดในรอบปีเมื่อวันพุธ(6พ.ค.) หลังข้อมูลกระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยคลังน้ำมันดิบสำรองรายสัปดาห์ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าแม้จะลดลง 3.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สต๊อกน้ำมันดิบก็ยังอยู่ที่ 487.0 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยพบมาหากนับเฉพาะในช่วงเวลานี้ของปี
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ
ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,182.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น เพิ่มขึ้น 0.51% แตะที่ 94.64 ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่สดใสของสหรัฐยังกดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 2 พ.ค. เพิ่มขึ้น 3,000 ราย แตะ 265,000 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวขึ้นไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 275,000 ราย
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยคาดว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้ประกอบการตัดสินใจว่าควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้หรือไม่