นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงแนวทางการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญควรให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาทุจริต เพราะปัญหานี้แก้ไขได้ยาก ตนจึงมีข้อเสนอ 3 ประเด็นเพื่อให้คณะกรรมาธิการยกร่างฯ นำไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไข คือ ควรกำหนดให้องค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบออกระเบียบเรื่องกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบคำร้องอย่างชัดเจน เพราะปัญหาที่ผ่านมาบางคดีใช้เวลาตรวจสอบกว่า 10 ปี จนคดีหมดอายุความ
นอกจากนี้ ควรยกเลิกหลักสูตรอบรมระดับสูงขององค์กรอิสระที่ทำเหมือนเป็นแฟชั่น ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น (ป.ป.ช.) ที่ไปดูงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่สำคัญมีผู้ไม่หวังดี เจตนาไม่บริสุทธิ์ส่งนอมินีเข้ารับการอบรมหลักสูตรนี้ เพื่อทำความสนิทสนมกับกรรมการของแต่ละองค์กรต่างๆ หวังล็อบบี้ไปเป็นอนุกรรมการในการพิจารณาคดี
ขณะที่องค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ต้องเปิดเผยข้อมูลเมื่อถูกร้องขอตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 และควรระบุว่าหากมีผู้ร้องขอ ต้องเผยแพร่ข้อมูลภายในระยะเวลากี่วัน และหากมีการตกแต่งหรือให้ข้อมูลเท็จ ต้องได้รับโทษมากกว่าคนทั่วไปอย่างน้อย 2 เท่า เพราะที่ผ่านมาการขอดูข้อมูลแต่ละครั้งมีความยากลำบาก เช่น การขอข้อมูลการแต่งตั้งผู้ช่วย สปช.ที่จนกว่าจะได้มายากลำบากมาก
นอกจากนี้ ควรยกเลิกหลักสูตรอบรมระดับสูงขององค์กรอิสระที่ทำเหมือนเป็นแฟชั่น ทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น (ป.ป.ช.) ที่ไปดูงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่สำคัญมีผู้ไม่หวังดี เจตนาไม่บริสุทธิ์ส่งนอมินีเข้ารับการอบรมหลักสูตรนี้ เพื่อทำความสนิทสนมกับกรรมการของแต่ละองค์กรต่างๆ หวังล็อบบี้ไปเป็นอนุกรรมการในการพิจารณาคดี
ขณะที่องค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ต้องเปิดเผยข้อมูลเมื่อถูกร้องขอตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 และควรระบุว่าหากมีผู้ร้องขอ ต้องเผยแพร่ข้อมูลภายในระยะเวลากี่วัน และหากมีการตกแต่งหรือให้ข้อมูลเท็จ ต้องได้รับโทษมากกว่าคนทั่วไปอย่างน้อย 2 เท่า เพราะที่ผ่านมาการขอดูข้อมูลแต่ละครั้งมีความยากลำบาก เช่น การขอข้อมูลการแต่งตั้งผู้ช่วย สปช.ที่จนกว่าจะได้มายากลำบากมาก