นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การส่งออกไทยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีมูลค่า 18,886 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 4.45 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มูลค่าการส่งออก 3 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่า 53,365 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 4.69 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน
อย่างไรก็ตาม มีการประเมินการส่งออกในปีนี้ จะมีมูลค่า 228,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัวร้อยละ 0 เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในตลาดส่งออกหลัก เงินบาทไทยแข็งค่ากว่าคู่แข่งร้อยละ 5 ที่สำคัญยังมีปัจจัยกระทบ ทั้งกรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรปให้ใบเหลืองประมงไทย ซึ่งจะขยายผลไปสู่อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นอื่นๆ ของสหภาพยุโรป และการแก้ไขปัญหามาตรฐานการควบคุมสายการบินของ ICAO รวมถึงสภาวะอากาศที่ส่งผลต่อผลผลิตการเกษตร ตลอดจนปัญหาภัยสงครามในตะวันออกกลางและภูมิภาคอื่นๆ หากรุนแรงกว่านี้ อาจส่งผลให้การส่งออกของไทยในปีนี้ติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่สาม
ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ปรับลดเป้าส่งออกเหลือร้อยละ 1.2 ถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย และมีโอกาสทำได้หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน อย่างไรก็ตาม สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือเตรียมปรับประมาณการส่งออกในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้
อย่างไรก็ตาม มีการประเมินการส่งออกในปีนี้ จะมีมูลค่า 228,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัวร้อยละ 0 เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในตลาดส่งออกหลัก เงินบาทไทยแข็งค่ากว่าคู่แข่งร้อยละ 5 ที่สำคัญยังมีปัจจัยกระทบ ทั้งกรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรปให้ใบเหลืองประมงไทย ซึ่งจะขยายผลไปสู่อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นอื่นๆ ของสหภาพยุโรป และการแก้ไขปัญหามาตรฐานการควบคุมสายการบินของ ICAO รวมถึงสภาวะอากาศที่ส่งผลต่อผลผลิตการเกษตร ตลอดจนปัญหาภัยสงครามในตะวันออกกลางและภูมิภาคอื่นๆ หากรุนแรงกว่านี้ อาจส่งผลให้การส่งออกของไทยในปีนี้ติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่สาม
ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ปรับลดเป้าส่งออกเหลือร้อยละ 1.2 ถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย และมีโอกาสทำได้หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน อย่างไรก็ตาม สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือเตรียมปรับประมาณการส่งออกในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้