นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนมีนาคม2558
อยู่ที่ระดับ 87.7 ลดลงจากระดับ 88.9 ในเดือนกุมภาพันธ์2558 โดยปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ค่าดัชนีฯ ที่ลดลงเกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ
ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคมยังคงปรับลดลง สะท้อนบรรยากาศของการประกอบการอุตสาหกรรม ที่ยังขาดปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ ประกอบกับความเปราะบางของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัญหาขีดความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากขาดการปรับปรุงเทคโนโลยีในการผลิต รวมทั้งการตกต่ำของราคาสินค้าเกษตร ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของเกษตรกร ขณะเดียวกันการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับในภูมิภาค เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลด้านลบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 100.4 เพิ่มขึ้นจาก 99.2ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ที่เพิ่มเกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิตและผลประกอบการ
สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือนมีนาคมนี้คือ ผู้ประกอบการต้องการให้มีการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าการลงทุน พร้อมทั้งดูแลค่าเงินให้มีเสถียรภาพ และอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ อีกทั้งให้การสนับสนุนการใช้นวัตกรรมในการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิต เพื่อสร้างมูลค่าสินค้า รวมถึงสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ
อยู่ที่ระดับ 87.7 ลดลงจากระดับ 88.9 ในเดือนกุมภาพันธ์2558 โดยปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ค่าดัชนีฯ ที่ลดลงเกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ
ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคมยังคงปรับลดลง สะท้อนบรรยากาศของการประกอบการอุตสาหกรรม ที่ยังขาดปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ ประกอบกับความเปราะบางของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัญหาขีดความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากขาดการปรับปรุงเทคโนโลยีในการผลิต รวมทั้งการตกต่ำของราคาสินค้าเกษตร ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของเกษตรกร ขณะเดียวกันการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับในภูมิภาค เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลด้านลบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 100.4 เพิ่มขึ้นจาก 99.2ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ที่เพิ่มเกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิตและผลประกอบการ
สำหรับข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือนมีนาคมนี้คือ ผู้ประกอบการต้องการให้มีการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกการค้าการลงทุน พร้อมทั้งดูแลค่าเงินให้มีเสถียรภาพ และอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ อีกทั้งให้การสนับสนุนการใช้นวัตกรรมในการปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิต เพื่อสร้างมูลค่าสินค้า รวมถึงสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ