รายงานข่าวแจ้งว่า ในโลกออนไลน์ได้มีการโพสต์ภาพข้อความและปกนิตยสารเล่มหนึ่ง ประจำเดือน เม.ย. 2015 ซึ่งเป็นนิตยสารที่วางอยู่บนเครื่องบินของสายการบินแห่งหนึ่ง โดยหน้าปกระบุข้อความ "Phuket Insider ไข่มุกอันดามัน" ขณะที่ภายในเนื้อหาของนิตยสารฉบับดังกล่าว มีการเขียนถึง 2 วีรสตรี ผู้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองภูเก็ตในอดีต คือ เท้าเทพกระษัตรี - เท้าศรีสุนทร ทำให้ชาวภูเก็ตที่พบเห็นข้อความที่เขียนถึงผู้กอบกู้เอกราชและปกป้องเมืองถลางในครั้งอดีตต่างไม่พอใจ เนื่องจากมีการใช้คำผิดจนน่าเกลียด "เท้า" คือ อวัยวะของร่างกายที่ใช้เดิน ส่วนคำนำหน้าของ "ผู้เป็นใหญ่-พระเจ้าแผ่นดิน หรือตำแหน่งบรรดาศักดิ์ข้าราชการฝ่ายในครั้งอดีต" จะใช้คำว่า "ท้าว"
ดังนั้นคำที่ควรใช้ให้ถูกต้องคือ ท้าวเทพกระษัตรี - ท้าวศรีสุนทร หรือ ย่ามุก - ย่าจัน ของชาวภูเก็ต ส่งผลให้มีการแชร์ข้อความในนิตยสารฉบับดังกล่าวกันอย่างกว้างขวาง พร้อมกับมีการวิพากษ์วิจารณ์โดยมีการแสดงความคิดเห็นกันในเฟซบุ๊กและเว็บบอร์ดต่างๆ ใน จ.ภูเก็ต เกี่ยวกับข้อความที่ถูกตีพิมพ์ในนิตยสารดังกล่าว เช่น คนภูเก็ตต้องช่วยกันแชร์ให้ถึงผู้หลักผู้ใหญ่ของนิตยสารฉบับนี้ หรือต้องมีผู้รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น บางรายกล่าวถึงการดูหมิ่นเกียรติยศของบรรพบุรุษที่สร้างเมือง-กอบกู้เอกราชให้เป็นภูเก็ตมาจนถึงปัจจุบัน จนกลายเป็นห้องรับแขกโลก หรือคนทำสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่รอบคอบ ขาดความละเอียด เขียนชื่อวีรสตรีเมืองถลางผิดไปอย่างน่าเกลียด บรรณาธิการปล่อยงานให้ลงพิมพ์ได้อย่างไร และใครจะรับผิดชอบแก้ไข ฯลฯ จนทำให้ชาวภูเก็ตที่ทราบเรื่องดังกล่าวต่างไม่พอใจ
ดังนั้นคำที่ควรใช้ให้ถูกต้องคือ ท้าวเทพกระษัตรี - ท้าวศรีสุนทร หรือ ย่ามุก - ย่าจัน ของชาวภูเก็ต ส่งผลให้มีการแชร์ข้อความในนิตยสารฉบับดังกล่าวกันอย่างกว้างขวาง พร้อมกับมีการวิพากษ์วิจารณ์โดยมีการแสดงความคิดเห็นกันในเฟซบุ๊กและเว็บบอร์ดต่างๆ ใน จ.ภูเก็ต เกี่ยวกับข้อความที่ถูกตีพิมพ์ในนิตยสารดังกล่าว เช่น คนภูเก็ตต้องช่วยกันแชร์ให้ถึงผู้หลักผู้ใหญ่ของนิตยสารฉบับนี้ หรือต้องมีผู้รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น บางรายกล่าวถึงการดูหมิ่นเกียรติยศของบรรพบุรุษที่สร้างเมือง-กอบกู้เอกราชให้เป็นภูเก็ตมาจนถึงปัจจุบัน จนกลายเป็นห้องรับแขกโลก หรือคนทำสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่รอบคอบ ขาดความละเอียด เขียนชื่อวีรสตรีเมืองถลางผิดไปอย่างน่าเกลียด บรรณาธิการปล่อยงานให้ลงพิมพ์ได้อย่างไร และใครจะรับผิดชอบแก้ไข ฯลฯ จนทำให้ชาวภูเก็ตที่ทราบเรื่องดังกล่าวต่างไม่พอใจ