พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นสุสานหายยาในตัวเมืองเชียงใหม่ หลังมีข้อมูลว่าเป็นจุดที่มีความเชื่อมโยงการซื้อขายชิ้นส่วนศพให้เครือข่ายทำไสยเวทย์และมนต์ดำ หลังจากขยายผลจับกุมอดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยดินจี่ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ที่นำศพเด็กมาทำพิธี ซึ่งเจ้าหน้าที่พบถุงดำบรรจุชิ้นส่วนของมนุษย์จำนวนมาก ซุกซ่อนไว้ใต้ฐานเมรุเผาศพประมาณ 20 ถุง โดยเป็นชิ้นส่วนอวัยวะและมีซากเด็กทารกด้วย และมีป้ายชื่อโรงพยาบาลจังหวัดน่าน และโรงพยาบาลเชียงคำ จ.พะเยา ติดอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจพิสูจน์ที่มาต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปชา กล่าวว่า เชื่อว่าชิ้นส่วนมนุษย์ที่ตรวจพบน่าจะมีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้าชิ้นส่วนมนุษย์ ที่ทำเครื่องรางของขลังด้านไสยเวทย์และมนต์ดำ เพราะทางสุสานไม่มีการรับศพของโรงพยาบาลมาเผากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการสืบสวนขยายผลเรื่องนี้โดยเร็ว ถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญ
การตรวจต้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจภาค 5 ร่วมกับทหาร บุกตรวจสอบวัดห้วยดินจี่ หมู่ 5 ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พระเฉลิม หรือ นายเฉลิม ด้วงทอง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเดิมเลขที่ 344 หมู่ 11 ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ อดีตเจ้าอาวาสของวัด ซึ่งถูกจับสึกไปเมื่อปีที่แล้ว ได้มีการสร้างวัตถุมงคลโดยใช้วิชาไสยศาสตร์ นำซากศพเด็กมาผสมทำวัตถุมงคล แล้วขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมวัตถุมงคลดังกล่าว โดยนำศพเด็กไปฝังไว้ใต้ฐานพระพรหมและศาลฤาษี จำนวน 4 ศพ ซึ่งหนึ่งในนั้น ทราบชื่อคือ ด.ญ.วันเพ็ญ โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงวัด ต่างหวาดผวากับพฤติกรรมของเจ้าอาวาสจอมขมังเวท
กระทั่งต่อมา เจ้าอาวาสถูกจับสึกคดีเสพเมถุน และทางตำรวจได้กดดันเพื่อเอาความผิดกับอดีตเจ้าอาวาส จนเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 58 อดีตเจ้าอาวาสได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมรับสารภาพว่า ได้นำศพเด็กที่ซื้อมาจากสัปเหร่อคนหนึ่ง ในตัวเมืองเชียงใหม่ ชื่อ ป้าบุญ ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง มาทำพิธี ทางตำรวจจึงได้เข้าไปในพื้นที่วัด เพื่อจะขุดพิสูจน์เอาซากศพออกมา แต่ถูกชาวบ้านฮือต้าน ไม่ยอมให้ขุด สุดท้ายก็ยอมให้ขุดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 58 ที่ผ่านมา และพบเจอศพเด็กไม่ทราบเพศ ที่ถูกฝังอยู่ในโลงแก้ว สภาพแห้งติดกระดูก ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปชา กล่าวว่า เชื่อว่าชิ้นส่วนมนุษย์ที่ตรวจพบน่าจะมีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้าชิ้นส่วนมนุษย์ ที่ทำเครื่องรางของขลังด้านไสยเวทย์และมนต์ดำ เพราะทางสุสานไม่มีการรับศพของโรงพยาบาลมาเผากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการสืบสวนขยายผลเรื่องนี้โดยเร็ว ถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญ
การตรวจต้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจภาค 5 ร่วมกับทหาร บุกตรวจสอบวัดห้วยดินจี่ หมู่ 5 ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พระเฉลิม หรือ นายเฉลิม ด้วงทอง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเดิมเลขที่ 344 หมู่ 11 ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ อดีตเจ้าอาวาสของวัด ซึ่งถูกจับสึกไปเมื่อปีที่แล้ว ได้มีการสร้างวัตถุมงคลโดยใช้วิชาไสยศาสตร์ นำซากศพเด็กมาผสมทำวัตถุมงคล แล้วขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมวัตถุมงคลดังกล่าว โดยนำศพเด็กไปฝังไว้ใต้ฐานพระพรหมและศาลฤาษี จำนวน 4 ศพ ซึ่งหนึ่งในนั้น ทราบชื่อคือ ด.ญ.วันเพ็ญ โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงวัด ต่างหวาดผวากับพฤติกรรมของเจ้าอาวาสจอมขมังเวท
กระทั่งต่อมา เจ้าอาวาสถูกจับสึกคดีเสพเมถุน และทางตำรวจได้กดดันเพื่อเอาความผิดกับอดีตเจ้าอาวาส จนเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 58 อดีตเจ้าอาวาสได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมรับสารภาพว่า ได้นำศพเด็กที่ซื้อมาจากสัปเหร่อคนหนึ่ง ในตัวเมืองเชียงใหม่ ชื่อ ป้าบุญ ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง มาทำพิธี ทางตำรวจจึงได้เข้าไปในพื้นที่วัด เพื่อจะขุดพิสูจน์เอาซากศพออกมา แต่ถูกชาวบ้านฮือต้าน ไม่ยอมให้ขุด สุดท้ายก็ยอมให้ขุดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 58 ที่ผ่านมา และพบเจอศพเด็กไม่ทราบเพศ ที่ถูกฝังอยู่ในโลงแก้ว สภาพแห้งติดกระดูก ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น