กัปตันของเรือขนผู้อพยพที่อัปปางลงในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจนคาดว่ามีผู้เสียชีวิตไป 800-900 คน กลายเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดในบริเวณนั้นในรอบหลายสิบปี ได้ถูกจับกุมพร้อมกับลูกเรืออีกคนหนึ่งเมื่อวันอังคาร (21 เม.ย.) และถูกอัยการอิตาลีตั้งข้อหาต้องสงสัยว่ากระทำฆาตกรรม ทำให้เรืออัปปาง และเกี่ยวข้องกับการลักลอบอพยพเข้าเมือง
อัยการเมืองคาตาเนีย ในเกาะซิซิลี ทางตอนใต้ของอิตาลี แถลง ว่า เรือที่ลักลอบขนผู้อพยพจำนวนหลายร้อยคนออกจากชายฝั่งลิเบียลำนี้ บรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด และได้ชนกับเรือสินค้าของโปรตุเกสที่แล่นเข้าหา ภายหลังได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือ จากนั้นเรือขนผู้อพยพก็พลิกคว่ำ อย่างไรก็ดี ไม่ถือเป็นความผิดของเรือสินค้า เนื่องจากสาเหตุที่เรือขนผู้อพยพเอียงเป็นเพราะความผิดพลาดในการบังคับเรือของกัปตัน และความตื่นตระหนกของผู้อพยพหลายร้อยคนที่เบียดเสียดอยู่ในเรือลากอวนเก่าขนาด 20 เมตรลำดังกล่าว
ทางการอิตาลีได้จับกุมกัปตันเรือลำนี้ ซึ่งเป็นชาวตูนีเซีย วัย 27 ปี ชื่อโมฮัมเหม็ด อาลี มาเล็ค ในข้อหาต้องสงสัยฆาตกรรม ทำให้เรือล่ม และช่วยเหลือในการลักลอบขนผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย
นอกจากนี้อิตาลียังจับกุมลูกเรือชาวซีเรีย วัย 25 ปี ชื่อว่า มาห์มูด บิกกิต เนื่องจากสงสัยว่า ช่วยเหลือในการลักลอบขนผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยอัยการเตรียมขออำนาจจากผู้พิพากษาในการขยายเวลาควบคุมตัวบุคคลทั้งคู่เพื่อสอบสวน และอาจมีการตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ
จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้ที่โดยสารในเรือได้เพียง 28 คน ซึ่งรวมถึงชายสองคนที่ถูกจับกุม จากเหตุเรือล่มเมื่อวันอาทิตย์(19) ที่อาจมีผู้เสียชีวิต 800-900 คน โดยผู้อพยพจำนวนมากถูกขังอยู่ใต้ท้องเรือ
ผู้รอดชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งมีทั้งที่มาจากมาลี แกมเบีย เซเนกัล โซมาเลีย เอริเทรีย และบังคลาเทศนั้น ถูกนำตัวไปพักฟื้นในศูนย์ที่จัดเตรียมไว้ใกล้เมืองคาตาเนีย
รัฐบาลอิตาลีรับปากว่า จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่ยังหลงเหลืออยู่ในเรือ ซึ่งอัยการระบุว่า จะเป็นเบาะแสสำคัญในการสอบสวน
นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซีของอิตาลี กล่าวเมื่อวันจันทร์ (20) ว่า ผู้ลักลอบขนผู้อพยพแออัดในเรือลำดังกล่าวไม่ต่างอะไรจากพ่อค้าทาสในศตวรรษที่ 18
เซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่ฝ่ายสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ขานรับว่า โศกนาฏกรรมในทะเลเกิดจากความล้มเหลวอย่างมโหฬารในด้านความเห็นอกเห็นใจของรัฐบาลบางชาติในยุโรป โดยที่เวลานี้ชาติยุโรปกำลังถูกกดดันอย่างหนักให้เร่งจัดการวิกฤตด้านมนุษยธรรมในบริเวณชายฝั่งด้านใต้ของทวีป
อัยการเมืองคาตาเนีย ในเกาะซิซิลี ทางตอนใต้ของอิตาลี แถลง ว่า เรือที่ลักลอบขนผู้อพยพจำนวนหลายร้อยคนออกจากชายฝั่งลิเบียลำนี้ บรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด และได้ชนกับเรือสินค้าของโปรตุเกสที่แล่นเข้าหา ภายหลังได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือ จากนั้นเรือขนผู้อพยพก็พลิกคว่ำ อย่างไรก็ดี ไม่ถือเป็นความผิดของเรือสินค้า เนื่องจากสาเหตุที่เรือขนผู้อพยพเอียงเป็นเพราะความผิดพลาดในการบังคับเรือของกัปตัน และความตื่นตระหนกของผู้อพยพหลายร้อยคนที่เบียดเสียดอยู่ในเรือลากอวนเก่าขนาด 20 เมตรลำดังกล่าว
ทางการอิตาลีได้จับกุมกัปตันเรือลำนี้ ซึ่งเป็นชาวตูนีเซีย วัย 27 ปี ชื่อโมฮัมเหม็ด อาลี มาเล็ค ในข้อหาต้องสงสัยฆาตกรรม ทำให้เรือล่ม และช่วยเหลือในการลักลอบขนผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย
นอกจากนี้อิตาลียังจับกุมลูกเรือชาวซีเรีย วัย 25 ปี ชื่อว่า มาห์มูด บิกกิต เนื่องจากสงสัยว่า ช่วยเหลือในการลักลอบขนผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยอัยการเตรียมขออำนาจจากผู้พิพากษาในการขยายเวลาควบคุมตัวบุคคลทั้งคู่เพื่อสอบสวน และอาจมีการตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ
จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้ที่โดยสารในเรือได้เพียง 28 คน ซึ่งรวมถึงชายสองคนที่ถูกจับกุม จากเหตุเรือล่มเมื่อวันอาทิตย์(19) ที่อาจมีผู้เสียชีวิต 800-900 คน โดยผู้อพยพจำนวนมากถูกขังอยู่ใต้ท้องเรือ
ผู้รอดชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งมีทั้งที่มาจากมาลี แกมเบีย เซเนกัล โซมาเลีย เอริเทรีย และบังคลาเทศนั้น ถูกนำตัวไปพักฟื้นในศูนย์ที่จัดเตรียมไว้ใกล้เมืองคาตาเนีย
รัฐบาลอิตาลีรับปากว่า จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่ยังหลงเหลืออยู่ในเรือ ซึ่งอัยการระบุว่า จะเป็นเบาะแสสำคัญในการสอบสวน
นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซีของอิตาลี กล่าวเมื่อวันจันทร์ (20) ว่า ผู้ลักลอบขนผู้อพยพแออัดในเรือลำดังกล่าวไม่ต่างอะไรจากพ่อค้าทาสในศตวรรษที่ 18
เซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่ฝ่ายสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ขานรับว่า โศกนาฏกรรมในทะเลเกิดจากความล้มเหลวอย่างมโหฬารในด้านความเห็นอกเห็นใจของรัฐบาลบางชาติในยุโรป โดยที่เวลานี้ชาติยุโรปกำลังถูกกดดันอย่างหนักให้เร่งจัดการวิกฤตด้านมนุษยธรรมในบริเวณชายฝั่งด้านใต้ของทวีป