วันนี้ (16 เม.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริตในสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถึง นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. โดยมีนายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักการข่าวและกิจการพิเศษ ป.ป.ช.เป็นผู้รับหนังสือ
นายวัชระ กล่าวว่า นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรและตน ได้ตรวจสอบโครงการเสริมสร้าง และเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่รับผิดชอบ โดยอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรรายหนึ่งในสมัยนั้น เชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น โดยโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณกว่า 1.43 ล้านบาท แบ่งย่อยออกเป็น 5 กิจกรรม ซึ่งมีหนึ่งกิจกรรมที่เจ้าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสุภาพสตรีไม่ยอมเซ็นเบิกจ่ายงบประมาณในการดำเนินการเนื่องจากไม่มีการจัดกิจกรรมจริง ทำให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวถูกออกคำสั่งย้ายจากตำแหน่งภายใน 24 ชั่วโมง
นอกจากนั้น ยังมีการเซ็นรับรองสำเนาบัตรประชาชนคนละรายชื่อ มีการเบิกจ่ายค่าใช้จ่าย ค่าตกแต่งเวที ทั้งที่ไม่มีการจัดกิจกรรมจริง
นายวัชระ กล่าวว่า ขอให้ประธาน ป.ป.ช.เร่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริงอดีตรองประธานสภาฯ รายดังกล่าว และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งเร่งรัดตรวจสอบกรณีทุจริตในสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกรณีอื่นๆ ที่ได้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบแล้วกว่า 1 ปี แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เช่น กรณีการจัดซื้อนาฬิกา มูลค่า 15 ล้านบาท กรณีการปรับปรุงห้องประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณ มูลค่า 36 ล้านบาท รวมทั้งการปรับปรุงห้องผู้สื่อข่าวที่ยังไม่มีความคืบหน้า เป็นต้น
นายวัชระ กล่าวว่า นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรและตน ได้ตรวจสอบโครงการเสริมสร้าง และเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่รับผิดชอบ โดยอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรรายหนึ่งในสมัยนั้น เชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น โดยโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณกว่า 1.43 ล้านบาท แบ่งย่อยออกเป็น 5 กิจกรรม ซึ่งมีหนึ่งกิจกรรมที่เจ้าหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสุภาพสตรีไม่ยอมเซ็นเบิกจ่ายงบประมาณในการดำเนินการเนื่องจากไม่มีการจัดกิจกรรมจริง ทำให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวถูกออกคำสั่งย้ายจากตำแหน่งภายใน 24 ชั่วโมง
นอกจากนั้น ยังมีการเซ็นรับรองสำเนาบัตรประชาชนคนละรายชื่อ มีการเบิกจ่ายค่าใช้จ่าย ค่าตกแต่งเวที ทั้งที่ไม่มีการจัดกิจกรรมจริง
นายวัชระ กล่าวว่า ขอให้ประธาน ป.ป.ช.เร่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริงอดีตรองประธานสภาฯ รายดังกล่าว และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งเร่งรัดตรวจสอบกรณีทุจริตในสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกรณีอื่นๆ ที่ได้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบแล้วกว่า 1 ปี แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เช่น กรณีการจัดซื้อนาฬิกา มูลค่า 15 ล้านบาท กรณีการปรับปรุงห้องประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณ มูลค่า 36 ล้านบาท รวมทั้งการปรับปรุงห้องผู้สื่อข่าวที่ยังไม่มีความคืบหน้า เป็นต้น
