นายเมธี มหายศนันท์ ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงภาวะพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ หนองคาย สกลนคร นครพนม นครราชสีมาตอนล่าง รวมไปถึงภาคตะวันออก อาทิ จันทบุรี ตราด ชลบุรี ระยอง กรุงเทพฯ บางแห่ง ได้รับอิทธิพลจากพายุฤดูร้อนและมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ยังไม่มีรายงานลูกเห็บตกนั้น หลังจากนี้ คาดว่าอิทธิพลของพายุจะส่งผลอีกอย่างน้อย 1-2 วัน แต่ลักษณะการเกิดฝนฟ้าคะนองจะเกิดไม่นาน หรือไม่เกิน 1 ชั่วโมง จากนั้นจะเคลื่อนตัวออกไป แต่ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายช่วงก่อนที่พายุจะเข้า ควรเตรียมพร้อมและสำรวจดูสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง
สำหรับกรุงเทพมหานคร ขอให้ประชาชนตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน และเตรียมอุปกรณ์ในการป้องกันฝนด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กรมอุตุฯ กล่าวด้วยว่า ช่วงระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน ประเทศไทยจะมีภาวะความกดอากาศเข้ามาเสริม ส่งผลให้ทั่วทุกภาคของประเทศ รวมทั้งภาคใต้ เกิดฝนตกหนัก จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง โดยเฉพาะภาคเหนืออาจมีพายุลูกเห็บตก เนื่องจากโอกาสเกิดมีมากกว่าพื้นที่ราบลุ่ม
สำหรับกรุงเทพมหานคร ขอให้ประชาชนตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน และเตรียมอุปกรณ์ในการป้องกันฝนด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กรมอุตุฯ กล่าวด้วยว่า ช่วงระหว่างวันที่ 12-15 เมษายน ประเทศไทยจะมีภาวะความกดอากาศเข้ามาเสริม ส่งผลให้ทั่วทุกภาคของประเทศ รวมทั้งภาคใต้ เกิดฝนตกหนัก จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง โดยเฉพาะภาคเหนืออาจมีพายุลูกเห็บตก เนื่องจากโอกาสเกิดมีมากกว่าพื้นที่ราบลุ่ม