กระทรวงมหาดไทยของเคนยา แถลงวานนี้ (5 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ว่า 1 ใน 4 ของผู้ก่อเหตุสังหารหมู่นักศึกษาที่มหาวิทยาลัย ในเมืองการิสซา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เป็นบุตรชายของเจ้าหน้าที่รัฐบาล
โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า นายอับดีราฮิม อับดุลลาฮี เป็น 1 ใน 4 ของสมาชิกกลุ่มอัล-ชาบับ ที่ก่อเหตุสังหารหมู่ ซึ่งทำให้นักศึกษาเสียชีวิต 148 คน และเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากบิดาของเขาว่า นายอับดุลลาฮีได้หายตัวไปจากบ้านหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
นายอับดุลลาฮี สำเร็จการศึกษาด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยไนโรเมื่อปี 2556 เป็นบุคคลที่มีความสามารถจนถูกจับตามองในฐานะนักกฎหมายอนาคตไกล มีรายงานระบุว่า ครอบครัวของนายอับดุลลาฮีแจ้งการหายตัวไปของเขาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว โดยสันนิษฐานว่าเขาอาจข้ามพรมแดนไปยังโซมาเลีย ข้อมูลดังกล่าวทำให้รัฐบาลตระหนักถึงความท้าทายใหม่ของภัยคุกคามที่ไม่เพียงมาจากภายนอก แต่ยังรวมถึงเยาวชนของชาติที่ถูกปลูกฝังแนวคิดหัวรุนแรง ได้รับการฝึกการสู้รบ และกลับมาก่อเหตุในประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า นักรบต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เข้าร่วมกับอัล-ชาบับในโซมาเลียคือชาวเคนยา โดยประธานาธิบดีอูฮูรู เคนยัตตา กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า มีกลุ่มผู้วางแผนก่อเหตุและสนับสนุนทางการเงินแก่พวกผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ในสังคมเคนยาจำนวนมาก และเรียกร้องให้ทุกคนร่วมมือกันต่อสู้ รวมถึงเป็นหูเป็นตาสอดส่องเฝ้าระวังพฤติกรรมของเยาวชนที่อาจหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของกลุ่มหัวรุนแรง นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดเสี่ยงที่เป็นภัยต่อความมั่นคงในสายตาของรัฐบาลคือ ค่ายผู้ลี้ภัยที่เป็นที่พักพิงของชาวโซมาเลียกว่า 423,000 คน
ทั้งนี้ กลุ่มอัล-ชาบับได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการแก้แค้นรัฐบาลเคนยา ที่ส่งทหารเข้าร่วมกับกองกำลังรักษาสันติภาพของสหภาพแอฟริกา ในการต่อสู้กับอัล-ชาบับซึ่งเป็นเครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ประกาศกร้าวจะทำให้เคนยานองไปด้วยเลือด โดยการโจมตีครั้งนี้ที่คนร้ายมุ่งเป้าไปที่นักศึกษาชาวคริสเตียน ได้ทำให้ความขัดแย้งระหว่างชุมชนที่ต่างศาสนาตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า นายอับดีราฮิม อับดุลลาฮี เป็น 1 ใน 4 ของสมาชิกกลุ่มอัล-ชาบับ ที่ก่อเหตุสังหารหมู่ ซึ่งทำให้นักศึกษาเสียชีวิต 148 คน และเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากบิดาของเขาว่า นายอับดุลลาฮีได้หายตัวไปจากบ้านหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
นายอับดุลลาฮี สำเร็จการศึกษาด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยไนโรเมื่อปี 2556 เป็นบุคคลที่มีความสามารถจนถูกจับตามองในฐานะนักกฎหมายอนาคตไกล มีรายงานระบุว่า ครอบครัวของนายอับดุลลาฮีแจ้งการหายตัวไปของเขาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว โดยสันนิษฐานว่าเขาอาจข้ามพรมแดนไปยังโซมาเลีย ข้อมูลดังกล่าวทำให้รัฐบาลตระหนักถึงความท้าทายใหม่ของภัยคุกคามที่ไม่เพียงมาจากภายนอก แต่ยังรวมถึงเยาวชนของชาติที่ถูกปลูกฝังแนวคิดหัวรุนแรง ได้รับการฝึกการสู้รบ และกลับมาก่อเหตุในประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า นักรบต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุดที่เข้าร่วมกับอัล-ชาบับในโซมาเลียคือชาวเคนยา โดยประธานาธิบดีอูฮูรู เคนยัตตา กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า มีกลุ่มผู้วางแผนก่อเหตุและสนับสนุนทางการเงินแก่พวกผู้ก่อการร้ายแฝงตัวอยู่ในสังคมเคนยาจำนวนมาก และเรียกร้องให้ทุกคนร่วมมือกันต่อสู้ รวมถึงเป็นหูเป็นตาสอดส่องเฝ้าระวังพฤติกรรมของเยาวชนที่อาจหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของกลุ่มหัวรุนแรง นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดเสี่ยงที่เป็นภัยต่อความมั่นคงในสายตาของรัฐบาลคือ ค่ายผู้ลี้ภัยที่เป็นที่พักพิงของชาวโซมาเลียกว่า 423,000 คน
ทั้งนี้ กลุ่มอัล-ชาบับได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการแก้แค้นรัฐบาลเคนยา ที่ส่งทหารเข้าร่วมกับกองกำลังรักษาสันติภาพของสหภาพแอฟริกา ในการต่อสู้กับอัล-ชาบับซึ่งเป็นเครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ประกาศกร้าวจะทำให้เคนยานองไปด้วยเลือด โดยการโจมตีครั้งนี้ที่คนร้ายมุ่งเป้าไปที่นักศึกษาชาวคริสเตียน ได้ทำให้ความขัดแย้งระหว่างชุมชนที่ต่างศาสนาตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
