นายอดิศักดิ์ ขันตี รองปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.)เปิดเผยภายหลังการประชุมมาตรการแก้ปัญหารุกล้ำคลองลาดพร้าวว่า กทม.ได้วางแนวทางแก้ปัญหาบ้านรุกล้ำบริเวณคลองลาดพร้าวเป็นพื้นที่แรก เนื่องจากเป็นคลองหลักในการระบายน้ำของกรุงเทพฯ มีความยาวตลอดแนว 22 กิโลเมตร ซึ่งกทม.ได้ทำการสำรวจพบว่า มีบ้านเรือนที่รุกล้ำคลองลาดพร้าวมีบ้านเรือนที่รุกล้ำจำนวน 3,023 หลังคาเรือนมีประชาชนกว่า 13,900 คน
สำหรับบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกสิ่งก่อสร้างรุกล้ำคลองในพื้นที่เขตห้วยขวางมี 184 หลังคาเรือน เขตจตุจักร 600 หลังคาเรือน เขตหลักสี่ 240 หลังคาเรือน เขตดอนเมือง 229 หลังคาเรือน เขตสายไหม 1,716 หลังคาเรือน เขตลาดพร้าว 25 หลังคาเรือน เขตวังทองหลาง 29 หลังคาเรือน โดยเขตบางเขน ไม่มีผู้บุกรุก
ทั้งนี้กทม.ได้วางแนวทางในการแก้ปัญหาบ้านเรือนผู้รุกล้ำโดยย้ายบ้านเรือนรุกล้ำออกจากคลองลาดพร้าวใน 3 รูปแบบ คือ 1. ย้ายบ้านเรือนรุกล้ำไปยังพื้นใกล้เคียงในแนวคลองลาดพร้าว 2. ย้ายบ้านเรือนรุกล้ำไปยังบริเวณอื่น ในพื้นที่รัศมี 3-5 กิโลเมตร และ 3. ย้ายบ้านเรือนรุกล้ำไปอยู่ยังพื้นที่อื่นๆ ซึ่งขณะนี้กทม.ได้ประสานงานกับทางการเคหะแห่งชาติเพื่อจัดหาบ้านมั่นคง หรือหาพื้นที่สำหรับสร้างที่พักรองรับประชาชนที่อาศัยในแนวคลอง โดยจะได้ข้อสรุปถึงจำนวนพื้นที่รองรับได้ในสัปดาห์หน้า จากนั้นกทม.จะเริ่มดำเนินการแจ้งประชาสัมพันธ์เจรจาให้แก่ประชาชนในแนวคลองรับทราบเพื่อเตรียมการย้ายออกจากพื้นที่แต่หากประชาชนในพื้นที่ใดไม่ยินยอมกทม.ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้กทม.ยังเตรียมจัดการเยียวยาแก่ประชาชน ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมกำหนดหลักเกณฑ์การเยียวยาที่เหมาะสมอีกครั้ง
นอกจากนี้กทม.ได้รับงบประมาณสนับสนุนให้ดำเนินการสร้างแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมในคลองลาดพร้าว โดยกำหนดระยะความกว้างของคลองให้ได้ 38 เมตรตลอดแนว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดรูปแบบเคลื่อนเบื้องต้นเขื่อนจะมีความสูงจากก้นคลอง 4 เมตร ซึ่งกทม.อยู่ระหว่างการกำหนดทีโออาร์หาผู้รับจ้างในการดำเนินการ คาดว่าอีก 2 เดือนกทม.จะสามารถเปิดหาเอกชนเข้ามาดำเนินการสร้างเขื่อนได้ โดยจะเริ่มก่อสร้างในพื้นที่ที่ไม่มีบ้านเรือนรุกล้ำก่อน ส่วนในพื้นที่รุกล้ำก็จะทยอยย้ายบ้านเรือนประชาชนออกจากพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างเขื่อนและแก้ปัญหาผู้รุกล้ำได้ในเวลา 4 ปี
สำหรับบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกสิ่งก่อสร้างรุกล้ำคลองในพื้นที่เขตห้วยขวางมี 184 หลังคาเรือน เขตจตุจักร 600 หลังคาเรือน เขตหลักสี่ 240 หลังคาเรือน เขตดอนเมือง 229 หลังคาเรือน เขตสายไหม 1,716 หลังคาเรือน เขตลาดพร้าว 25 หลังคาเรือน เขตวังทองหลาง 29 หลังคาเรือน โดยเขตบางเขน ไม่มีผู้บุกรุก
ทั้งนี้กทม.ได้วางแนวทางในการแก้ปัญหาบ้านเรือนผู้รุกล้ำโดยย้ายบ้านเรือนรุกล้ำออกจากคลองลาดพร้าวใน 3 รูปแบบ คือ 1. ย้ายบ้านเรือนรุกล้ำไปยังพื้นใกล้เคียงในแนวคลองลาดพร้าว 2. ย้ายบ้านเรือนรุกล้ำไปยังบริเวณอื่น ในพื้นที่รัศมี 3-5 กิโลเมตร และ 3. ย้ายบ้านเรือนรุกล้ำไปอยู่ยังพื้นที่อื่นๆ ซึ่งขณะนี้กทม.ได้ประสานงานกับทางการเคหะแห่งชาติเพื่อจัดหาบ้านมั่นคง หรือหาพื้นที่สำหรับสร้างที่พักรองรับประชาชนที่อาศัยในแนวคลอง โดยจะได้ข้อสรุปถึงจำนวนพื้นที่รองรับได้ในสัปดาห์หน้า จากนั้นกทม.จะเริ่มดำเนินการแจ้งประชาสัมพันธ์เจรจาให้แก่ประชาชนในแนวคลองรับทราบเพื่อเตรียมการย้ายออกจากพื้นที่แต่หากประชาชนในพื้นที่ใดไม่ยินยอมกทม.ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้กทม.ยังเตรียมจัดการเยียวยาแก่ประชาชน ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมกำหนดหลักเกณฑ์การเยียวยาที่เหมาะสมอีกครั้ง
นอกจากนี้กทม.ได้รับงบประมาณสนับสนุนให้ดำเนินการสร้างแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมในคลองลาดพร้าว โดยกำหนดระยะความกว้างของคลองให้ได้ 38 เมตรตลอดแนว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดรูปแบบเคลื่อนเบื้องต้นเขื่อนจะมีความสูงจากก้นคลอง 4 เมตร ซึ่งกทม.อยู่ระหว่างการกำหนดทีโออาร์หาผู้รับจ้างในการดำเนินการ คาดว่าอีก 2 เดือนกทม.จะสามารถเปิดหาเอกชนเข้ามาดำเนินการสร้างเขื่อนได้ โดยจะเริ่มก่อสร้างในพื้นที่ที่ไม่มีบ้านเรือนรุกล้ำก่อน ส่วนในพื้นที่รุกล้ำก็จะทยอยย้ายบ้านเรือนประชาชนออกจากพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างเขื่อนและแก้ปัญหาผู้รุกล้ำได้ในเวลา 4 ปี