รองนายกฯ เผยรัฐมนตรีที่ดินเขมรเข้าพบ แลกเปลี่ยนข้อมูลโครงการจัดที่ทำกิน ระบุเพื่อนบ้านสนใจบ้านมั่นคง ให้คนมีรายได้น้อยซื้อหรือเช่า พร้อมสร้างเมืองใหม่ และปฏิรูปที่ดิน แนะกลุ่มต้านให้ความเห็นอย่างสร้างสรรค์ อดทนเพื่อสังคมที่ยั่งยืน โยนสถานศึกษาพิจารณานักศึกษาก่อเหตุ เชื่อยังไม่ถึงขั้นลุกฮือ
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง สมเด็จอิม ฌุน ลิม (H.E. IM Chhun Lim) รัฐมนตรีกระทรวงที่ดินผังเมืองและการก่อสร้าง ราชอาณาจักรกัมพูชา เข้าพบว่า ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ดินและบ้าน สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ที่มีรายได้ปานกลางของราชอาณาจักรกัมพูชา เรื่องดังกล่าวมีส่วนที่คลายคลึงกับประเทศไทย เช่น คนยากจน หรือรายได้ปานกลางไม่มีที่ทำกิน จึงได้อธิบายถึงโครงการของประเทศไทยที่มีการตั้งคณะกรรมการนโยบายที่ดินที่ดูแลในเรื่องของการจัดที่ทำกินให้ โดยเฉพาะผู้ที่ได้อยู่อาศัยในที่ต่างๆ ที่สามารถระบุได้ว่าเป็นที่ที่ไม่มีปัญหา และอีกด้านหนึ่งก็ได้พูดถึงโครงการบ้านมั่นคงของไทยซึ่งทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้ความสำคัญและดำเนินการแล้ว ถือเป็นโครงการที่ได้รับความสำเร็จ ประเทศต่างๆ ก็มาดูงานด้านนี้อยู่มาก
นายยงยุทธกล่าวด้วยว่า ประเทศกัมพูชาสนใจเรื่องโครงการบ้านมั่นคง เนื่องจากประเทศกัมพูชาเองก็มีโครงการให้ผู้ที่มีรายได้น้อยมีโอกาสที่จะซื้อหรือเช่าบ้านที่ทางรัฐบาลจัดให้ ในขณะนี้ก็มีโครงการที่จะสร้างเมืองใหม่ๆ โดยมีการวางผังเมือง เพราะกระทรวงของเขาเกี่ยวข้องกับการวางผังเมืองซึ่งจะทำให้สาธารณูปโภคได้เข้าถึง และมีความสนใจมากที่จะศึกษาสิ่งต่างๆ ที่เราได้ทำอยู่ในประเทศไทย รวมทั้งจะมีเรื่องการปฏิรูปที่ดินด้วย
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงที่มีผู้ต่อต้านการรัฐประหารว่า ทราบว่าการออกมาต่อต้านและการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน คิดว่าทุกคนสามารถที่จะให้ความเห็นได้แต่ก็จะต้องเป็นความเห็นที่สร้างสรรค์ ทำให้รัฐบาลสามารถรับไปและไปดำเนินการต่างๆ ได้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในภาพใหญ่ขณะนี้ทุกฝ่ายก็กำลังดำเนินการปฏิรูปประเทศ เพื่อจะให้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นฉบับถาวร และสามารถเดินหน้าประเทศต่อไปได้ อย่างยั่งยืน ในช่วงนี้ต้องถือเป็นช่วงรอยต่อเปลี่ยนผ่าน เพราะฉะนั้นก็ต้องขอให้ประชาชนมีความอดทนนิดหน่อยในการดำเนินการอะไรต่างๆ เพื่อดูภาพใหญ่ว่าสังคมของเรามีความสามัคคีปรองดองความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกันไปสู่สังคมที่มีความยั่งยืนต่อไปได้
เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยกับทางมหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ที่ออกมาเคลื่อนไหวเป็นนักศึกษา นายยงยุทธกล่าวว่า เมื่อวานผู้สื่อข่าวก็ถามตนเหมือนกัน อันนี้เป็นเรื่องของทางกระทรวงศึกษาธิการ สถานศึกษาต่างๆ ที่จะพิจารณากันต่อไป เป็นเรื่องที่จะต้องดูว่าเป็นการแสดงความเห็นส่วนตัว หรือว่าจะมีการดำเนินการเป็นกลุ่ม ในตอนนี้สถานศึกษาต่างๆ ก็ต้องติดตามอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ในส่วนของนักศึกษาที่อาจจะเกิดสถานการณ์เหมือนที่ผ่านๆ มา เหมือนที่นักศึกษาในอดีตเคยหรือ นายยงยุทธกล่าวว่า ตนคิดว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ว่าเราต้องฟังความเห็นจากทุกฝ่ายไม่ใช่แค่นักศึกษา แต่ฟังสังคมทั้งหมดเราต้องฟังความเห็นและไม่ทำให้เกิดความอึดอัด หรือความเครียดจนกระทั่งมันเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่ประสงค์ได้