นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน ยอมรับว่า ฝนที่ตกหนักในกรุงเทพมหานคร ทำให้มีสายการบินไม่สามารถลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ และท่าอากาศยานดอนเมืองได้ จำนวนมากวานนี้ (25 มี.ค.) และต้องทำการบินวนรอนานกว่า 25 นาที มากกว่า 30 เที่ยวบิน จึงต้องมีการแจ้งเหตุฉุกเฉินน้ำมันไม่พอ ทำให้กรมการบินพลเรือนต้องทำการตรวจสอบปัญหา แต่ยืนยันว่าแม้ในช่วงนี้จะมีฝนตกหนักและมีสภาพอากาศปิด จนกระทบต่อการทำการบินแต่สายการบินต่างๆ ก็จะมีการเตรียมความพร้อมโดยเฉพาะการสำรองน้ำมัน เผื่อกรณีฉุกเฉินไว้แล้ว
ทั้งนี้ บริษัทวิทยุการบินรายงานจำนวนเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศวันนี้ (25 มี.ค.) กว่า 108 เที่ยวบิน โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับผลกระทบมากที่สุดมีอากาศยานบินวนรอพักอากาศจำนวน 59 เที่ยวบิน เที่ยวบินละ 25 นาที และมีการประกาศภาวะฉุกเฉินเนื่องจากน้ำมันเหลือน้อย จำนวน 6 เที่ยวบิน แต่ทุกเที่ยวบินทำการบินลงเรียบร้อยปลอดภัยทั้งหมด
วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) รายงานผลกระทบการล่าช้าของเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง เนื่องจากมีสภาพอากาศ (พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง) ระหว่างเวลา 18.30-20.30 น. วันที่ 25 มี.ค. ดังนี้
1. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
1.1 อากาศยานบินวนรอภาคอากาศ(Hold) จำนวน 59 เที่ยวบิน เฉลี่ยเที่ยวบินละ 25 นาที
1.2 อากาศยานบินเข้ามาลงแต่ไม่สามารถลงได้ ต้องทำการบินขึ้นไปใหม่ (missed approach) จำนวน 2 เที่ยวบิน
1.3 อากาศยานขอเปลี่ยนเส้นทางไปลงสนามบินสำรอง (divert) จำนวน 4 เที่ยวบิน
1.4 อากาศยานล่าช้าภาคพื้นจอดรอในหลุมจอดและบนทางขับ จำนวน 20 เที่ยวบิน เฉลึ่ยเที่ยวบินละ 10 นาที
1.5 อากาศยานประกาศภาวะฉุกเฉิน (Declare Emergency) เนื่องจากปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงเหลือน้อย (Mayday Fuel) จากการบินวนรอสภาพอากาศและปริมาณการจราจรหนาแน่น จำนวน 6 เที่ยวบิน ดังนี้
1.5.1 เที่ยวบินของสายการบินอิมิเรตส์ แอร์ไลน์ ชื่อเรียกขาน UAE418 แบบ B77W เดินทางมาจากท่าอากาศยานดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 1859น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 1912น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 1913น.
1.5.2 เที่ยวบินของสายการบินฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์ ชื่อเรียกขาน PAL736 แบบ A320 เดินทางมาจากท่าอากาศยานมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 1915น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 1925น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 1926น.
1.5.3 เที่ยวบินของสายการบินอิมิเรตส์ แอร์ไลน์ ชื่อเรียกขาน UAE372 แบบ A388 เดินทางมาจากท่าอากาศยานดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 1920น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 1927น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 1928น.
1.5.4 เที่ยวบินของสายการบินไทย ชื่อเรียกขาน THA432 แบบ A333เดินทางมาจากท่าอากาศยานบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 1938น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 1944น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 1947น.
1.5.5 เที่ยวบินของสายการบินไทย ชื่อเรียกขาน THA147 แบบ A320 เดินทางมาจากท่าอากาศยานเชียงราย นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 1940น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 1947น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 1950น.
1.5.6 เที่ยวบินของสายการบินไทยสมายด์ ชื่อเรียกขาน THD029 แบบ A320 เดินทางมาจากท่าอากาศยานอุบลราชธานี นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 2013น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 2026น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 2029น.
2. ท่าอากาศยานดอนเมือง
2.1 อากาศยานบินวนรอภาคอากาศ(Hold) จำนวน 5 เที่ยวบิน เฉลี่ยเที่ยวบินละ 6 นาที
2.2 อากาศยานบินเข้ามาลงแต่ไม่สามารถลงได้ ต้องทำการบินขึ้นไปใหม่ (missed approach)จำนวน 7 เที่ยวบิน
2.3 อากาศยานล่าช้าภาคพื้นจอดรอในหลุมจอดและบนทางขับ ไม่มี
2.4 อากาศยานขอเปลี่ยนเส้นทางไปลงสนามบินสำรอง (divert) จำนวน 5 เที่ยวบิน
ทั้งนี้ บริษัทวิทยุการบินรายงานจำนวนเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศวันนี้ (25 มี.ค.) กว่า 108 เที่ยวบิน โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับผลกระทบมากที่สุดมีอากาศยานบินวนรอพักอากาศจำนวน 59 เที่ยวบิน เที่ยวบินละ 25 นาที และมีการประกาศภาวะฉุกเฉินเนื่องจากน้ำมันเหลือน้อย จำนวน 6 เที่ยวบิน แต่ทุกเที่ยวบินทำการบินลงเรียบร้อยปลอดภัยทั้งหมด
วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) รายงานผลกระทบการล่าช้าของเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง เนื่องจากมีสภาพอากาศ (พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง) ระหว่างเวลา 18.30-20.30 น. วันที่ 25 มี.ค. ดังนี้
1. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
1.1 อากาศยานบินวนรอภาคอากาศ(Hold) จำนวน 59 เที่ยวบิน เฉลี่ยเที่ยวบินละ 25 นาที
1.2 อากาศยานบินเข้ามาลงแต่ไม่สามารถลงได้ ต้องทำการบินขึ้นไปใหม่ (missed approach) จำนวน 2 เที่ยวบิน
1.3 อากาศยานขอเปลี่ยนเส้นทางไปลงสนามบินสำรอง (divert) จำนวน 4 เที่ยวบิน
1.4 อากาศยานล่าช้าภาคพื้นจอดรอในหลุมจอดและบนทางขับ จำนวน 20 เที่ยวบิน เฉลึ่ยเที่ยวบินละ 10 นาที
1.5 อากาศยานประกาศภาวะฉุกเฉิน (Declare Emergency) เนื่องจากปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงเหลือน้อย (Mayday Fuel) จากการบินวนรอสภาพอากาศและปริมาณการจราจรหนาแน่น จำนวน 6 เที่ยวบิน ดังนี้
1.5.1 เที่ยวบินของสายการบินอิมิเรตส์ แอร์ไลน์ ชื่อเรียกขาน UAE418 แบบ B77W เดินทางมาจากท่าอากาศยานดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 1859น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 1912น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 1913น.
1.5.2 เที่ยวบินของสายการบินฟิลิปปินส์ แอร์ไลน์ ชื่อเรียกขาน PAL736 แบบ A320 เดินทางมาจากท่าอากาศยานมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 1915น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 1925น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 1926น.
1.5.3 เที่ยวบินของสายการบินอิมิเรตส์ แอร์ไลน์ ชื่อเรียกขาน UAE372 แบบ A388 เดินทางมาจากท่าอากาศยานดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 1920น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 1927น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 1928น.
1.5.4 เที่ยวบินของสายการบินไทย ชื่อเรียกขาน THA432 แบบ A333เดินทางมาจากท่าอากาศยานบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 1938น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 1944น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 1947น.
1.5.5 เที่ยวบินของสายการบินไทย ชื่อเรียกขาน THA147 แบบ A320 เดินทางมาจากท่าอากาศยานเชียงราย นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 1940น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 1947น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 1950น.
1.5.6 เที่ยวบินของสายการบินไทยสมายด์ ชื่อเรียกขาน THD029 แบบ A320 เดินทางมาจากท่าอากาศยานอุบลราชธานี นักบินประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อเวลา 2013น. โดยทำการลงเรียบร้อยปลอดภัยเวลา 2026น. และประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินเวลา 2029น.
2. ท่าอากาศยานดอนเมือง
2.1 อากาศยานบินวนรอภาคอากาศ(Hold) จำนวน 5 เที่ยวบิน เฉลี่ยเที่ยวบินละ 6 นาที
2.2 อากาศยานบินเข้ามาลงแต่ไม่สามารถลงได้ ต้องทำการบินขึ้นไปใหม่ (missed approach)จำนวน 7 เที่ยวบิน
2.3 อากาศยานล่าช้าภาคพื้นจอดรอในหลุมจอดและบนทางขับ ไม่มี
2.4 อากาศยานขอเปลี่ยนเส้นทางไปลงสนามบินสำรอง (divert) จำนวน 5 เที่ยวบิน