นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ต.ค.57-ก.พ.58) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 797,432 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 5,586 ล้านบาท หรือ 0.7% โดยสาเหตุมาจากกรมสรรพสามิตมีรายได้จากภาษีน้ำมัน และภาษียาสูบสูงกว่าปีที่แล้ว ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณมีจำนวนกว่า 1.2 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วราว 8,000 ล้านบาท หรือ 0.7% ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุลกว่า 412,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 961 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมกว่า 411,000 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 99,259 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลราว 312,000 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวน 183,133 ล้านบาท
นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า การขาดดุลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ สะท้อนถึงบทบาทของรัฐบาลในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ภาคเอกชนยังระมัดระวังการใช้จ่าย
นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า การขาดดุลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ สะท้อนถึงบทบาทของรัฐบาลในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ภาคเอกชนยังระมัดระวังการใช้จ่าย