สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า ประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศวานูอาตู ซึ่งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ได้รับผลกระทบจากไซโคลนแพม ขณะที่ได้ปรับยอดผู้เสียชีวิตขึ้นเป็น 16 คน
ทั้งนี้ ไซโคลนเขตร้อน "แพม" ได้พัดกระหน่ำหมู่เกาะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และทำให้เกิดลมกระโชกแรง ซึ่งมีความเร็วลมราว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อชุมชนทั้งหมด
สำนักงานประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรม (โอซีเอชเอ) ระบุในรายงานว่า ประชาชนราว 166,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรของประเทศ ได้รับผลกระทบจากไซโคลนเขตร้อนแพมที่พัดกระหน่ำ 22 เกาะ ขณะที่อาหารและน้ำสำหรับผู้ประสบภัยกำลังจะหมดลง และจะใช้ยังชีพทั่วทั้งหมู่เกาะที่ได้รับผลกระทบได้ไม่เกินกว่า 2 สัปดาห์
นอกจากนี้ โอซีเอชเอ ยังกล่าวยืนยันการปรับยอดผู้เสียชีวิตขึ้นเป็น 16 คนด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์สามารถเข้าไปถึงพื้นที่ใหม่ซึ่งประสบภัย และเสร็จสิ้นการประเมินความเสียหายบน 15 เกาะแล้ว แต่ยอมรับว่า บางชุมชนยังไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งประเทศแห่งนี้มีกว่า 80 เกาะ
ทั้งนี้ ไซโคลนเขตร้อน "แพม" ได้พัดกระหน่ำหมู่เกาะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และทำให้เกิดลมกระโชกแรง ซึ่งมีความเร็วลมราว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อชุมชนทั้งหมด
สำนักงานประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรม (โอซีเอชเอ) ระบุในรายงานว่า ประชาชนราว 166,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรของประเทศ ได้รับผลกระทบจากไซโคลนเขตร้อนแพมที่พัดกระหน่ำ 22 เกาะ ขณะที่อาหารและน้ำสำหรับผู้ประสบภัยกำลังจะหมดลง และจะใช้ยังชีพทั่วทั้งหมู่เกาะที่ได้รับผลกระทบได้ไม่เกินกว่า 2 สัปดาห์
นอกจากนี้ โอซีเอชเอ ยังกล่าวยืนยันการปรับยอดผู้เสียชีวิตขึ้นเป็น 16 คนด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์สามารถเข้าไปถึงพื้นที่ใหม่ซึ่งประสบภัย และเสร็จสิ้นการประเมินความเสียหายบน 15 เกาะแล้ว แต่ยอมรับว่า บางชุมชนยังไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งประเทศแห่งนี้มีกว่า 80 เกาะ