ประธานาธิบดีบอลด์วิน ลอนส์เดล แห่งสาธารณรัฐวานูอาตู ยอมรับว่า จะต้องมีการฟื้นฟูประเทศครั้งใหญ่ เนื่องจากพายุไซโคลนแพมพัดทำลายทั้งอาคารบ้านเรือน เสาไฟฟ้า และถนนหลายสาย ขณะที่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชนที่อยู่ในหมู่เกาะห่างไกล แม้ว่าในขณะนี้ความช่วยเหลือจากต่างประเทศจะทยอยเข้าถึงพื้นที่ แต่เนื่องจากประเทศหมู่เกาะแห่งนี้ เป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก เมื่อเผชิญกับพายุรุนแรง จึงกลายเป็นภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายอย่างหนักที่สุด
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติของวานูอาตู รายงานว่า พายุไซโคลนแพม มีความรุนเรงเทียบเท่าพายุเฮอริเคนระดับ 5 ซึ่งสูงสุดตามมาตรวัดซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน และทำลายพื้นที่เกือบทั้งหมดของประเทศ โดยมีการยืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ศพ แต่คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจะสูงกว่านี้ เมื่อการช่วยเหลือไปถึงพื้นที่ห่างไกล
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติของวานูอาตู รายงานว่า พายุไซโคลนแพม มีความรุนเรงเทียบเท่าพายุเฮอริเคนระดับ 5 ซึ่งสูงสุดตามมาตรวัดซัฟเฟอร์-ซิมป์สัน และทำลายพื้นที่เกือบทั้งหมดของประเทศ โดยมีการยืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ศพ แต่คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจะสูงกว่านี้ เมื่อการช่วยเหลือไปถึงพื้นที่ห่างไกล