xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพระดมอากาศยานเร่งดับไฟป่า-ลดหมอกควันพื้นที่ภาคเหนือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันพื้นที่ภาคเหนือ ว่า กองทัพภาคที่ 3 กำลังดำเนินการคู่ขนานไปกับการแก้ไขปัญหาของส่วนราชการในระดับจังหวัด 9 จังหวัด โดยได้รับการสนับสนุนอากาศยานเพิ่มเติมเมื่อ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา ใน 4 กลุ่มงาน โดยกลุ่มงานที่ 1 คือการสนับสนุนการทำฝนหลวงโดยเครื่องบินกาซา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลุ่มงานที่ 2 การทิ้งน้ำดับไฟป่าโดยเฮลิคิปเตอร์ลำเลียง MI-17 พร้อมอุปกรณ์ของกองทัพบก และเฮลิคอปเตอร์ชีนุกจากประเทศสิงคโปร์

ขณะที่กลุ่มงานที่ 3 เป็นการใช้เครื่องบิน BT- 67 และเครื่อง C-130 ของกองทัพอากาศ บินโปรยและฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควัน และกลุ่มงานที่ 4 การลาดตระเวนทางอากาศเพื่อค้นหาจุดเกิดไฟ (Hot spot) และกำหนดพื้นที่เป้าหมายโดยการใช้เครื่องบิน U17 เฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ จำนวน 3 เครื่อง ของกองทัพบก และเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมจัดกำลังเข้าปฏิบัติทางภาคพื้นดิน ซึ่งรับผิดชอบโดยกองพลทหารราบที่ 7 สนธิกำลังกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมป่าไม้

ทั้งนี้ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีปฏิบัติการทางอากาศที่สำคัญในหลายพื้นที่ โดยที่ จ.เชียงใหม่ เฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้ของกองทัพบกได้ขึ้นบินสำรวจภูมิประเทศในพื้นที่ อ.แม่ออน เพื่อยืนยันจุดฮอตสปอต และแหล่งน้ำ ส่วนเฮร์ลิคอปเต MI-17ของกองทัพบก และชีนุกจากสิงคโปร์ ได้ขึ้นบินสำรวจภูมิประเทศด้านทิศเหนือดอยอินทนนท์ อ.แม่แจ่ม เพื่อยืนยันฮอตสปอต และแหล่งน้ำ พร้อมดับไฟในบริเวณดังกล่าวด้วย โดยในวันนี้พื้นที่ปฏิบัติการของอากาศยานไทย-สิงคโปร์ยังคงอยู่ในบริเวณ จ.เชียงใหม่

รองโฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า เครื่องบินจากกองฝนหลวง เชียงใหม่ได้เข้าทำฝนหลวงแล้วจำนวน 8 เที่ยวบิน ในพื้นที่ อ.กัลยาณิวัฒนา-อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ อ.เวียงป่าเป้า-อ.แม่สรวย-อ.แม่ลาว-อ.เมือง-อ.พาน จ.เชียงราย อ.แม่เมาะ-อ.แม่ทะ จ.ลำปาง อ.วังชิ้น-อ.ลอง จ.แพร่ ส่วนเครื่องบิน BT– 67 ได้บินโปรยน้ำบริเวณศาลากลางและโรงเรียนยุพราช จ.เชียงใหม่ ในส่วนของการปฏิบัติงานภาคพื้นดินได้จัดชุดลาดตระเวนและดับไฟป่าตามจุดฮอตสปอตร่วมกับส่วนราชการอื่นๆ สามารถดับไฟได้ 17 จุด จากทั้งหมด 39 จุด คงเหลือ 22 จุด

ปัจจุบันค่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศเกินมาตรฐานเพิ่มขึ้น 2 จังหวัด คือ เชียงราย และตาก ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 19-23 มีนาคมนี้ สภาพอากาศจะร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อากาศร้อนถึงร้อนจัด มีแนวโน้มสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันอยู่ในสภาวะทรงตัว ซึ่งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกส่วนจะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก มอบหมายให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ติดตามประสานงาน และสนับสนุนการปฏิบัติของทุกส่วนอย่างเต็มที่ และให้คลี่คลายสถานการณ์ตามความเร่งด่วน บนพื้นฐานของความปลอดภัยในทุกด้านด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น