รายงานข่าวแจ้งว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหาร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอด ร้อยโท มนัส ใจเด็ด สังกัดกองทัพบก ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่ มีคําสั่งปลดออกจากราชการ เนื่องจากกระทําความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจําการ
(ในระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึก) และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญทองช้างเผือก ที่บุคคลดังกล่าวได้รับพระราชทาน ทั้งนี้ ตามข้อ ๖ และข้อ ๗ (๔) ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๘
ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรี
และอีกหนึ่งประกาศ ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหารและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดนายทหารสัญญาบัตรออกจากยศทหาร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ ๗ ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ รวม ๓ นาย ดังนี้
๑. ร้อยโท วรพจน์ เสือแสวงสินธุ์ สังกัดกองทัพบก ตั้งแต่วันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่เข้าเกณฑ์หนีราชการ เนื่องจากกระทําความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจําการและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย
๒. ร้อยตรี มานัส ลับสันเทียะ สังกัดกองทัพบก ตั้งแต่วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคําสั่งปลดออกจากราชการ เนื่องจากกระทําความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจําการและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญทองช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา
๓. เรืออากาศโท ธนกฤษ สว่างวงศ์ สังกัดกองทัพอากาศ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคําพิพากษาถึงที่สุด เนื่องจากศาลฎีกาพิพากษาให้ลงโทษจําคุก ๑ ปี ๔ เดือน ในความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดเกี่ยวกับเอกสาร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญทองช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา
ประกาศ ณ วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรี
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอด ร้อยโท มนัส ใจเด็ด สังกัดกองทัพบก ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่ มีคําสั่งปลดออกจากราชการ เนื่องจากกระทําความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจําการ
(ในระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึก) และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญทองช้างเผือก ที่บุคคลดังกล่าวได้รับพระราชทาน ทั้งนี้ ตามข้อ ๖ และข้อ ๗ (๔) ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๘
ประกาศ ณ วันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรี
และอีกหนึ่งประกาศ ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหารและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดนายทหารสัญญาบัตรออกจากยศทหาร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ ๗ ของระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๔๘ รวม ๓ นาย ดังนี้
๑. ร้อยโท วรพจน์ เสือแสวงสินธุ์ สังกัดกองทัพบก ตั้งแต่วันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ซึ่งเป็นวันที่เข้าเกณฑ์หนีราชการ เนื่องจากกระทําความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจําการและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย
๒. ร้อยตรี มานัส ลับสันเทียะ สังกัดกองทัพบก ตั้งแต่วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคําสั่งปลดออกจากราชการ เนื่องจากกระทําความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจําการและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญทองช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา
๓. เรืออากาศโท ธนกฤษ สว่างวงศ์ สังกัดกองทัพอากาศ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคําพิพากษาถึงที่สุด เนื่องจากศาลฎีกาพิพากษาให้ลงโทษจําคุก ๑ ปี ๔ เดือน ในความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดเกี่ยวกับเอกสาร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญทองช้างเผือก และเหรียญจักรมาลา
ประกาศ ณ วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรี