ปักกิ่งส่ง “ทหารกองหนุน” ช่วยเฝ้าพรมแดนติดเกาหลีเหนือ หลังเหตุชาวโสมแดงปล้นฆ่าชาวจีน

รอยเตอร์ - จีนกำลังส่งทหารกองหนุนไปช่วยคุ้มกันชายแดนติดต่อกับเกาหลีเหนือ สื่อทางการรายงาน โดยเป็นความเคลื่อนไหวหลังจากมีรายงานการสังหารพลเมืองชาวจีนโดยชาวเกาหลีเหนือมาแล้ว 2 กรณี ซึ่งอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเปียงยางและพันธมิตรหนึ่งเดียวของพวกเขาเกิดความตึงเครียด

ไชน่า ดีเฟนซ์ นิวส์ ระบุวานนี้ (14 ม.ค.) ว่า ทางการได้จัดตั้งระบบการป้องกันของทหารกองหนุนขึ้นในจังหวัดหยานเปียนของมณฑลจี๋หลิน ทั้งนี้หยานเปียนมีพรมแดนร่วมกับเกาหลีเหนือประมาณ 500 กิโลเมตร

หนังสือพิมพ์เจ้านี้ระบุว่า “ทั้งจีนและเกาหลีเหนือต่างกำลังวางกำลังรักษาการป้องกันบริเวณพรมแดนแห่งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวซับซ้อนมากขึ้นและการที่อาศัยอยู่เพียงแค่ฝ่ายเดียวจะทำให้มันเป็นการยากที่จะทำการควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

รัฐบาลยังได้ “แนะแนวทางจัดตั้งการตรวจการณ์ทางทหาร” เพื่อคุ้มกันหมู่บ้านชายแดน โดยทุก 10 หลังคาเรือนที่อยู่ข้างเคียงกันจะมีกลุ่มรักษาพรมแดนของตนเองและจะมีการตรวจตราด้วยกล้องวิดีโอตลอด 24 ชั่วโมง หนังสือพิมพ์เจ้านี้ ระบุ

เมือสัปดาห์ที่แล้ว จีนกล่าวว่าได้ยื่นหนังสือประท้วงต่อเกาหลีเหนือ หลังจากสื่อรายงานว่าทหารหนีราชการรายหนึ่งของกองทัพโสมแดงได้สังหารชาวบ้าน 4 คนขณะทำการปล้นทรัพย์ในเมือชายแดนเหองหลงของแดนมังกรเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

สื่อทางการได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจีน-เกาหลีเหนือ โดยระบุว่า รัฐบาลจีน “ไม่ควรอะลุ่มอะหล่วยจนเกินไป”

จีนเป็นพันธมิตรทางการทูตและเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของเกาหลีเหนือ แม้ว่าการทดสอบนิวเคลียร์ 3 ครั้ง, พฤติกรรมข่มขู่คุกคามหลายต่อหลายครั้ง และความรุนแรงบริเวณพรมแดนจีน-เกาหลีเหนือจะได้ทดสอบการสนับสนุนของปักกิ่งแล้วก็ตาม

แม่น้ำถูเหมินยาว 521 กิโลเมตรที่แบ่งแผ่นดินจีนและเกาหลีเหนือออกจากกันคือเส้นทางเล็ดลอดที่เหล่าผู้แปรพักตร์นิยมใช้หลบหนีออกจากรัฐสันโดษแห่งนี้