สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองดาร์เอสซาลาม ประเทศแทนซาเนีย เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่า ด.ช.บารากา คอสมาส เด็กผิดเผือกวัย 6 ขวบชาวแทนซาเนีย ถูกกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกเข้าไปใช้มีดตัดข้อมือขวาขาด และนำเอาไป ขณะนอนหลับอยู่กับผู้เป็นแม่ ในบ้านพักถิ่นชนบทเมืองคิเพนดา เขตรุควา ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
นายจาค็อบ เอ็มรูอันดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจเขตรุควา กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายรุมทุบตี นางพริสกา ชาอาบัน แม่ของเด็กรายดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากเธอพยายามขัดขวาง ไม่ยอมให้กลุ่มคนร้ายนำเอาตัวลูกชายไป ขณะนี้ทั้งแม่และลูกชายอยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์ในโรงพยาบาลประจำเมือง เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายเป็นพวกนักล่าคนเผือก เพื่อฆ่าแล้วนำศพ หรืออวัยวะร่างกายไปขาย เพื่อทำเป็นเครื่องรางของขลัง สำหรับผู้ที่เชื่อถือในทางไสยศาสตร์
เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจาก ประธานาธิบดีจากายา คิคเวเต ผุ้นำแทนซาเนีย ออกแถลงประณาม การสังหารและโจมตีคนผิวเผือก ที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศ โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่น่าขยะแขยง และสร้างความอับอายต่อประเทศ ในสายตาชาวโลก และในสัปดาห์นี้ ศาลในเมืองทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ มีคำตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิต จำเลย 4 คน จากความผิดฐานฆ่าผู้หญิงผิวเผือกรายหนึ่ง
ผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2543 มีคนผิวเผือกถูกฆ่า เพื่อนำอวัยวะไปทำเครื่องรางของขลังอย่างน้อย 75 ราย ราคาซื้อขายอวัยวะคนเผือกแต่ละชิ้นอยู่ที่ประมาณ 600 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 19,550 บาท) ส่วนศพทั้งร่างราคาสูงถึง 75,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,443,000 บาท
นายจาค็อบ เอ็มรูอันดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจเขตรุควา กล่าวว่า กลุ่มคนร้ายรุมทุบตี นางพริสกา ชาอาบัน แม่ของเด็กรายดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากเธอพยายามขัดขวาง ไม่ยอมให้กลุ่มคนร้ายนำเอาตัวลูกชายไป ขณะนี้ทั้งแม่และลูกชายอยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์ในโรงพยาบาลประจำเมือง เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายเป็นพวกนักล่าคนเผือก เพื่อฆ่าแล้วนำศพ หรืออวัยวะร่างกายไปขาย เพื่อทำเป็นเครื่องรางของขลัง สำหรับผู้ที่เชื่อถือในทางไสยศาสตร์
เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจาก ประธานาธิบดีจากายา คิคเวเต ผุ้นำแทนซาเนีย ออกแถลงประณาม การสังหารและโจมตีคนผิวเผือก ที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศ โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่น่าขยะแขยง และสร้างความอับอายต่อประเทศ ในสายตาชาวโลก และในสัปดาห์นี้ ศาลในเมืองทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ มีคำตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิต จำเลย 4 คน จากความผิดฐานฆ่าผู้หญิงผิวเผือกรายหนึ่ง
ผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2543 มีคนผิวเผือกถูกฆ่า เพื่อนำอวัยวะไปทำเครื่องรางของขลังอย่างน้อย 75 ราย ราคาซื้อขายอวัยวะคนเผือกแต่ละชิ้นอยู่ที่ประมาณ 600 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 19,550 บาท) ส่วนศพทั้งร่างราคาสูงถึง 75,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,443,000 บาท