เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้คุมตัว นายมหาหิน ขุนทอง หนึ่งในผู้ต้องหาก่อเหตุปาระเบิดใส่ด้านหน้าศาลอาญารัชดา มาแถลงต่อหน้าสื่อมวลชน โดยระบุว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยได้รับการว่าจ้างจากผู้หญิงรายหนึ่งที่รู้จักแค่ชื่อเล่นว่า "เดียร์" ผ่านทางไลน์ เป็นเงิน 2 หมื่นบาท ซึ่ง น.ส.เดียร์ อยู่ในกลุ่มเสรีชน ซึ่งไม่เคยพบหรือเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน ยอมรับว่าจำเป็นต้องก่อเหตุเพราะมีผลกระทบที่เกี่ยวกับครอบครัว และหวังให้สหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบและยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทย อีกทั้งเตรียมรวมตัวจะลงมืออีกพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 10 มี.ค. แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดเป้าหมาย ส่วนเรื่องระเบิดนั้น ผู้ชายที่ชื่อ "ใหญ่ พัทยา" เป็นผู้จัดการหาให้ นอกจากนี้แฟนสาวของตนยังเคยทำงานเป็นการ์ดให้กับ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และรู้จักกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลทหารกรุงเทพฯ ได้อนุมัติหมายจับ ผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นายมหาหิน ขุนทอง อายุ 34 ปี นายยุทธนา เย็นภิญโญ อายุ 34 ปี น.ส.ณัฏฐพัชร์ อ่อนมิ่ง อายุ 57 ปี น.ส.ธัชพรรณ ปกครอง อายุ 19 ปี และนายวีระศักดิ์ โตวังจร อายุ 42 ปี โดยทั้งหมดถูกออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ของผู้อื่น ,มีและใช้เครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแก่การสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ,มียุทธภัณฑ์ทางทหารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน
ทั้งนี้มีรายงานว่า สำหรับนายวีระศักดิ์ ที่ถูกอ้างว่าเป็นคนนำระเบิดมามอบให้ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนนั้น เคยทำหน้าที่เป็นหัวหน้าการ์ด นปช.และเคยถูก คสช.เรียกให้เข้าไปรายงานตัวหลังยึดอำนาจการปกครองมาแล้ว
ทางด้าน นายบวรศักดิ์ ทวิพัฒน์ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุว่า วันนี้ศาลอาญา เปิดทำการตามปกติ แต่จะเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้เข้มข้นมากขึ้น โดยการขอความร่วมมือในการตรวจรถยนต์ทุกคันที่นำเข้ามาในบริเวณศาล และตรวจค้นกระเป๋าของประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการภายในอาคารของศาลทุกแห่งด้วย
พร้อมกันนี้ ได้ขอความร่วมมือไปยังทหารและตำรวจ ให้เข้ามาร่วมดูแลความปลอดภัยให้กับศาลอาญา ทั้งนี้ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการประสานข้อมูลในการดูแลความปลอดภัยสำนักงานศาลกับทหาร และตำรวจ มาโดยตลอด แต่ยังไม่มีรายงานทางการข่าว เรื่องของกลุ่มที่ต้องการก่อเหตุปั่นป่วนศาลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากมีความชัดเจนในการสอบสวนบุคคลที่ตำรวจจับกุมได้ว่า สาเหตุที่ปาระเบิดใส่ศาลอาญานั้น มาจากเรื่องอะไร ทางสำนักงานศาลยุติธรรมจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนให้ทราบต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ศาลทหารกรุงเทพฯ ได้อนุมัติหมายจับ ผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นายมหาหิน ขุนทอง อายุ 34 ปี นายยุทธนา เย็นภิญโญ อายุ 34 ปี น.ส.ณัฏฐพัชร์ อ่อนมิ่ง อายุ 57 ปี น.ส.ธัชพรรณ ปกครอง อายุ 19 ปี และนายวีระศักดิ์ โตวังจร อายุ 42 ปี โดยทั้งหมดถูกออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ของผู้อื่น ,มีและใช้เครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแก่การสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ,มียุทธภัณฑ์ทางทหารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน
ทั้งนี้มีรายงานว่า สำหรับนายวีระศักดิ์ ที่ถูกอ้างว่าเป็นคนนำระเบิดมามอบให้ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนนั้น เคยทำหน้าที่เป็นหัวหน้าการ์ด นปช.และเคยถูก คสช.เรียกให้เข้าไปรายงานตัวหลังยึดอำนาจการปกครองมาแล้ว
ทางด้าน นายบวรศักดิ์ ทวิพัฒน์ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุว่า วันนี้ศาลอาญา เปิดทำการตามปกติ แต่จะเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้เข้มข้นมากขึ้น โดยการขอความร่วมมือในการตรวจรถยนต์ทุกคันที่นำเข้ามาในบริเวณศาล และตรวจค้นกระเป๋าของประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการภายในอาคารของศาลทุกแห่งด้วย
พร้อมกันนี้ ได้ขอความร่วมมือไปยังทหารและตำรวจ ให้เข้ามาร่วมดูแลความปลอดภัยให้กับศาลอาญา ทั้งนี้ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีการประสานข้อมูลในการดูแลความปลอดภัยสำนักงานศาลกับทหาร และตำรวจ มาโดยตลอด แต่ยังไม่มีรายงานทางการข่าว เรื่องของกลุ่มที่ต้องการก่อเหตุปั่นป่วนศาลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากมีความชัดเจนในการสอบสวนบุคคลที่ตำรวจจับกุมได้ว่า สาเหตุที่ปาระเบิดใส่ศาลอาญานั้น มาจากเรื่องอะไร ทางสำนักงานศาลยุติธรรมจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนให้ทราบต่อไป
