พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 5 - 10 มีนาคมนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน ระลอกใหม่แผ่ลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าว เกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วง 5 - 6 วันนี้ จึงสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 40 จังหวัด โดยแยกเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู เลย อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี นครสวรรค์ ภาคกลาง 9 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก ชัยนาท ลพบุรี อ่างทอง และสิงห์บุรี ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมพร้อมรับมือวาตภัย ซึ่งมีลักษณะอากาศแปรปรวน พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ส่วนกรณีสถานการณ์รุนแรง เน้นย้ำให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด
ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง