xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันร่วง ถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ ทองคำทะยานต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

น้ำมันดิบปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) โดยตลาดไนเม็กซ์สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 2.82 ดอลลาร์ หรือ -5.53เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 48.17ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล เป็นผลจากนักลงทุนยังกังวลต่อปริมาณคลังสำรองเชื้อเพลิงสหรัฐ ที่มีปริมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อให้เกิดความวิตกอุปสงค์ล้นตลาด

ด้านน้ำมันเบรนท์ลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.05 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.พ. พุ่งขึ้น 8.4 ล้านบาร์เรล แตะที่ 434.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 4 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 2.419 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันในรอบสัปดาห์ดังกล่าวพุ่งขึ้นแตะ 9.285 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526

ส่วนราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.60 ดอลลาร์ หรือ +0.72 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,210.10 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ ออนซ์ เป็นผลจากผู้ประกอบการค้ายังพอใจต่อการค้าขายทองคำจากประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง และท่าทีของธนาคารกลางยุโรปที่เริ่มผ่อนคลายต่อกรีซ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐยังส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ปิดในแดนลบด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,214.42 จุด ลดลง 10.15 จุด หรือ -0.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,987.89 จุด เพิ่มขึ้น 20.75 จุด หรือ +0.42% และดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,110.74 จุด ลดลง 3.12 จุด หรือ -0.15%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 อ่อนแรงลงหลังจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดนิวยอร์ก โดยหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.3% ขณะที่หุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวลง 1.3%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 21 ก.พ. เพิ่มขึ้น 31,000 ราย สู่ระดับ 313,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐอาจชะลอตัว

อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการคาดการณ์ของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3% ในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.8% ในเดือนม.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% ซึ่งส่งสัญญาณว่าภาคธุรกิจได้เพิ่มการลงทุนในช่วงต้นปีนี้

ส่วนดัชนี NASDAQ ปิดบวกเพราะได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.4% หุ้นแอปเปิล ปรับขึ้น 1.3% และหุ้นกูเกิล อิงค์ ทะยานขึ้น 2.1% หลังจากมีรายงานว่ากูเกิลจับมือกับแบล็คเบอร์รี่ และซัมซุง อิเล็กทรอนิก เพื่อนำเสนอโซลูชั่นจัดการอุปกรณ์พกพาสำหรับองค์กรให้สามารถรันบนระบบแอนดรอยด์ได้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ รวมถึงประมาณการจีดีพีประจำไตรมาส 4/2557 ครั้งที่ 2, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค.
กำลังโหลดความคิดเห็น