นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แผนปฏิรูปด้านพลังงานที่อยู่ระหว่างการจัดทำในขณะนี้เป็นไปเพื่อเป้าหมายการมีให้ประเทศไทยสามารถผลิตพลังงานใช้เองมากกว่าร้อยละ 50 จากปัจจุบันที่มีการนำเข้ามากถึงร้อยละ 80 โดยต้องการให้มีกำลังการผลิตสำรองไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15-20 ซึ่งจะมีการเร่งผลักดันการจัดหาแหล่งก๊าซธรรมชาติให้เป็นเชื้อเพลิง โดยการให้เอกชนเป็นผู้ร่วมในการผลิต พร้อมผลักดันโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้มีศักยภาพที่สุด ขณะเดียวกัน จะมีการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน หรือพลังงานทางเลือกให้มากขึ้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามหลักการปฏิรูปพลังงานให้มั่นคง คุ้มค่า และยั่งยืน เราจะปรับปรุงและแก้ไขกฏเกณฑ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น เลิกการอุดหนุนไม่ให้ราคาพลังงานไม่บิดเบือน ซึ่งหวังว่าในอนาคตเราจะผลิตพลังงานใช้เองเกินร้อยละ 50
นอกจากนี้ มองว่าราคาก๊าซธรรมชาติ (NGV) และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคขนส่งยังอยู่ในระดับต่ำเกินไป ซึ่งปัจจุบันมีรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงดังกล่าวกว่า 1.2 ล้านคัน โดยอนาคตราคา LPG ภาคขนส่งควรสูงกว่าภาคครัวเรือนจากปัจจุบันที่ใกล้เคียงกัน แต่ยังติดปัญหาด้านการลักลอบใช้ผิดประเภท ซึ่งมองว่าการเก็บภาษีที่หัวจ่ายจะลดปัญหาดังกล่าวได้ จากปัจจุบันที่เก็บจากคลังก๊าซ โดยจะต้องมีการหารือกันกับกรมสรรพามิตต่อไปถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามหลักการปฏิรูปพลังงานให้มั่นคง คุ้มค่า และยั่งยืน เราจะปรับปรุงและแก้ไขกฏเกณฑ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น เลิกการอุดหนุนไม่ให้ราคาพลังงานไม่บิดเบือน ซึ่งหวังว่าในอนาคตเราจะผลิตพลังงานใช้เองเกินร้อยละ 50
นอกจากนี้ มองว่าราคาก๊าซธรรมชาติ (NGV) และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคขนส่งยังอยู่ในระดับต่ำเกินไป ซึ่งปัจจุบันมีรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงดังกล่าวกว่า 1.2 ล้านคัน โดยอนาคตราคา LPG ภาคขนส่งควรสูงกว่าภาคครัวเรือนจากปัจจุบันที่ใกล้เคียงกัน แต่ยังติดปัญหาด้านการลักลอบใช้ผิดประเภท ซึ่งมองว่าการเก็บภาษีที่หัวจ่ายจะลดปัญหาดังกล่าวได้ จากปัจจุบันที่เก็บจากคลังก๊าซ โดยจะต้องมีการหารือกันกับกรมสรรพามิตต่อไปถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
