xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นสหรัฐทะยาน ทองคำร่วง น้ำมันทรงตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) โดยดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข่าวที่ประชุมยูโรโซนมีมติขยายเวลาเงินกู้ให้กรีซออกไปอีก 4 เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,209.19 จุด เพิ่มขึ้น 92.35 จุด หรือ +0.51% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,968.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.15 จุด หรือ +0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,115.48 จุด เพิ่มขึ้น 5.82 จุด หรือ +0.28%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นขานรับถ้อยแถลงของนางเยลเลนที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องตามที่เฟดคาดการณ์ไว้ และเฟดจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยขึ้นอยู่กับการประชุมในแต่ละครั้ง ซึ่งบ่งชี้ถึงการเพิ่มความยืดหยุ่นต่อการดำเนินการของเฟด และเป็นการสกัดกั้นปฏิกริยาของตลาดก่อนถึงวันที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า รัฐมนตรีคลังยูโรโซนให้ความเห็นชอบต่อการขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับกรีซออกไปอีก 4 เดือนแล้ว หลังจากที่ได้อนุมัติมาตรการปฏิรูปที่รัฐบาลกรีซได้ยื่นเสนอมาก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าของการเจรจาปัญหาหนี้กรีซและการที่ประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ทำให้ในระหว่างวันดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นแตะระดับ 18,231.09 จุดซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับ 2,117.94 จุดซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดบวกติดต่อกัน 10 วันทำการ

นอกจากนั้น ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐยังช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐประจำเดือนก.พ.อยู่ที่ 57.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ในปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้นจากระดับ 54.2 ในเดือนม.ค. ขณะที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 54.0

ด้านน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 17 เซนต์ หรือ -0.34 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 49.28 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล หลังจากรายงานคลังสำรองเชื้อเพลิงของสหรัญพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ลอนดอน ส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 24 เซนต์ ปิดที่ 58.86 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีกระแสคาดการณ์ในตลาดว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐอาจจะสูงขึ้น ภายหลังจากที่ผลสำรวจของเบเกอร์ ฮิวจ์ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลงเพียง 37 แห่ง สู่ระดับ 1019 แห่งในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับลดลงในอัตราที่น้อยที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์

ขณะเดียวกัน ตลาดได้รับแรงกดดันจากรายงานของการปิโตรเลียมลิเบียที่ระบุว่า บ่อน้ำมันหลายแห่งในลิเบียได้เริ่มกลับมาดำเนินการตามปกติแล้ว หลังจากที่มีการซ่อมแซมท่อส่งน้ำมัน

ขณะที่ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กสหรัฐ ลดลง 3.50ดอลลาร์ หรือ -0.29 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1197.30 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์ จากท่าทีของประธานเฟดที่ชี้แจงต่อสภาสหรัฐ ถึงการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลักอย่างระมัดระวัง

นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและมักจะเข้าซื้อเมื่อเกิดความไม่แน่นอนทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง พร้อมกับหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งรวมถึงหุ้น หลังจากรัฐมนตรีคลังยูโรโซนให้ความเห็นชอบต่อการขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับกรีซออกไปอีก 4 เดือนแล้ว ภายหลังจากที่ได้อนุมัติมาตรการปฏิรูปที่รัฐบาลกรีซได้ยื่นเสนอมาก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ช่วยสกัดช่วงลบของสัญญาทองคำในระหว่างวัน โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวลง 0.03% แตะที่ 94.58 โดยการอ่อนค่าดอลลาร์จะช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น