ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และรายงานจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ที่ระบุว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.ปรับตัวลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้สกัดปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่ากลุ่มรมว.คลังยูโรโซนได้บรรลุข้อตกลงขยายเวลาการให้ความช่วยเหลือกรีซ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,116.84 จุด ลดลง 23.60 จุด หรือ -0.13% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,960.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.00 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,109.66 จุด ลดลง 0.64 จุด หรือ -0.03%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 0.4% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดิ่งลง ภายหลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจาก NAR รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนม.ค.ลดลง 4.9% สู่ระดับ 4.82 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 4.98 ล้านยูนิต
การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและข้อมูลยอดขายบ้านที่อ่อนแอของสหรัฐได้สกัดปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่ารมว.คลังกลุ่มยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ได้บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศ ในการขยายโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินต่อกรีซออกไปอีก 4 เดือน
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการตอบรับในด้านบวกจากหลายฝ่าย เพราะถือเป็นการหลุดพ้นจากความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะบาดหมางกับกลุ่มเจ้าหนี้ และนำไปสู่ภาวะสภาพคล่องตึงตัวในเดือนมี.ค.
ด้านน้ำมันไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ-2.68 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 49.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ด้าน เบรนท์ลอนดอน ลดลง 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.90 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ลดลง 4.10 ดอลลาร์ หรือ-0.34 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1200.80 ดอลลาร์ เป็นผลมาจากการเจรขยายเงินกู้ของรัฐบาลกรีซ ต่ออียู และ ไอเอ็มเอฟ และวันหยุดยาวปีใหม่ของจีน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,116.84 จุด ลดลง 23.60 จุด หรือ -0.13% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,960.97 จุด เพิ่มขึ้น 5.00 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,109.66 จุด ลดลง 0.64 จุด หรือ -0.03%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 0.4% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดิ่งลง ภายหลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจาก NAR รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนม.ค.ลดลง 4.9% สู่ระดับ 4.82 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 4.98 ล้านยูนิต
การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและข้อมูลยอดขายบ้านที่อ่อนแอของสหรัฐได้สกัดปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่ารมว.คลังกลุ่มยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ได้บรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศ ในการขยายโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินต่อกรีซออกไปอีก 4 เดือน
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการตอบรับในด้านบวกจากหลายฝ่าย เพราะถือเป็นการหลุดพ้นจากความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรีซอาจจะบาดหมางกับกลุ่มเจ้าหนี้ และนำไปสู่ภาวะสภาพคล่องตึงตัวในเดือนมี.ค.
ด้านน้ำมันไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 1.36 ดอลลาร์ หรือ-2.68 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 49.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ด้าน เบรนท์ลอนดอน ลดลง 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.90 ดอลลาร์
ส่วนราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ลดลง 4.10 ดอลลาร์ หรือ-0.34 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1200.80 ดอลลาร์ เป็นผลมาจากการเจรขยายเงินกู้ของรัฐบาลกรีซ ต่ออียู และ ไอเอ็มเอฟ และวันหยุดยาวปีใหม่ของจีน