เมื่อวันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 07.48 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักธงน้อย อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ไปยังอาคารยิมเนเซียม ศูนย์การเรียนรู้และบริการวิชาการ เครือข่ายแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงพระดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการ ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับกองทัพบก โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดขึ้นเพื่อปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนและประชาชนเกิดความรัก หวงแหน ร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม ในพื้นที่จังหวัดน่านให้อยู่อย่างเกื้อกูลและยั่งยืน
จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังหอประชุมอาคารยิมเนเซียม ทรงเปิดการสัมมนา “รักษ์ป่าน่าน” ครั้งที่ 2 และทรงบรรยาย เรื่อง “การจัดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้” ในโอกาสนี้ ทรงร่วมฟังการบรรยายเรื่อง รู้รักป่า รู้รักษ์น่าน และการเสวนา เรื่อง “รักษ์ป่า สร้างอาชีพ ปลูกจิตสำนึก”
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารวิซซาคาม 2 ทรงวางพวงมาลัยสักการะศีรษะครูดนตรีไทยและถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
เสร็จแล้วพระราชทานพระราชวโรกาสให้อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้บริหารฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายโคแดงพื้นเมืองน่าน ให้คงอยู่ควบคู่วิถีชีวิตคนในท้องถิ่น
ในตอนบ่าย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปยังกลุ่มชาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ศรีนาป่าน – ตาแวน หมู่ 1 ตำบลเรือง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง พระราชทานพระราชวโรกาสให้ อธิบดีกรมป่าไม้และอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กราบบังคมทูลรายงาน ตามลำดับ จากนั้น ทรงพระดำเนินทอดพระเนตรกระบวนการผลิตชาเขียว ชาดำ และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชาอัสสัม ทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการความร่วมมือในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการปลูกชา ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกชาพันธุ์อัสสัมหรือเมี่ยง แต่เนื่องจากการผลิตชาอัสสัมในรูปผลิตภัณฑ์ชา มีปัญหาด้านวัตถุดิบและตลาด กรมส่งเสริมการเกษตร กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ได้สนองพระราชดำริพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการปลูกชาอัสสัมตามธรรมชาติ ในป่าชุมชนบ้านตาแวนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่านาชาวฝั่งซ้ายถนนสายแพร่-น่าน โดยมีการบริหารจัดการป่าชุมชน ทั้งฟื้นฟูสภาพป่า และแลกเปลี่ยนเรียนรู้เน้นให้ชาวบ้านทราบว่า ทั้งชาและเมี่ยงเติบโตบนต้นเดียวกัน ต่างกันที่กระบวนการเก็บและนำไปบริโภค และการทำชาจะต้องตัดแต่งต้นให้ยอดสมบูรณ์และเก็บเฉพาะยอดอ่อน นอกจากนี้ ยังได้รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจ ชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์ชาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ศรีนาป่าน-ตาแวน ปัจจุบันมีสมาชิก 31 ราย รับซื้อยอดชาจากสมาชิกมาแปรรูปเป็นชาเขียว ชาดำ และชาเขียวกลิ่นมะไฟจีน จำหน่ายในตลาดท้องถิ่น ร้านภูฟ้า และตลาดต่างประเทศ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับพระตำหนักธงน้อย อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงพระดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการ ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับกองทัพบก โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดขึ้นเพื่อปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนและประชาชนเกิดความรัก หวงแหน ร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ สิ่งแวดล้อม ในพื้นที่จังหวัดน่านให้อยู่อย่างเกื้อกูลและยั่งยืน
จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังหอประชุมอาคารยิมเนเซียม ทรงเปิดการสัมมนา “รักษ์ป่าน่าน” ครั้งที่ 2 และทรงบรรยาย เรื่อง “การจัดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้” ในโอกาสนี้ ทรงร่วมฟังการบรรยายเรื่อง รู้รักป่า รู้รักษ์น่าน และการเสวนา เรื่อง “รักษ์ป่า สร้างอาชีพ ปลูกจิตสำนึก”
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารวิซซาคาม 2 ทรงวางพวงมาลัยสักการะศีรษะครูดนตรีไทยและถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
เสร็จแล้วพระราชทานพระราชวโรกาสให้อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้บริหารฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายโคแดงพื้นเมืองน่าน ให้คงอยู่ควบคู่วิถีชีวิตคนในท้องถิ่น
ในตอนบ่าย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปยังกลุ่มชาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ศรีนาป่าน – ตาแวน หมู่ 1 ตำบลเรือง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง พระราชทานพระราชวโรกาสให้ อธิบดีกรมป่าไม้และอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กราบบังคมทูลรายงาน ตามลำดับ จากนั้น ทรงพระดำเนินทอดพระเนตรกระบวนการผลิตชาเขียว ชาดำ และร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชาอัสสัม ทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการความร่วมมือในการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการปลูกชา ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกชาพันธุ์อัสสัมหรือเมี่ยง แต่เนื่องจากการผลิตชาอัสสัมในรูปผลิตภัณฑ์ชา มีปัญหาด้านวัตถุดิบและตลาด กรมส่งเสริมการเกษตร กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ได้สนองพระราชดำริพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการปลูกชาอัสสัมตามธรรมชาติ ในป่าชุมชนบ้านตาแวนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่านาชาวฝั่งซ้ายถนนสายแพร่-น่าน โดยมีการบริหารจัดการป่าชุมชน ทั้งฟื้นฟูสภาพป่า และแลกเปลี่ยนเรียนรู้เน้นให้ชาวบ้านทราบว่า ทั้งชาและเมี่ยงเติบโตบนต้นเดียวกัน ต่างกันที่กระบวนการเก็บและนำไปบริโภค และการทำชาจะต้องตัดแต่งต้นให้ยอดสมบูรณ์และเก็บเฉพาะยอดอ่อน นอกจากนี้ ยังได้รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจ ชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์ชาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ศรีนาป่าน-ตาแวน ปัจจุบันมีสมาชิก 31 ราย รับซื้อยอดชาจากสมาชิกมาแปรรูปเป็นชาเขียว ชาดำ และชาเขียวกลิ่นมะไฟจีน จำหน่ายในตลาดท้องถิ่น ร้านภูฟ้า และตลาดต่างประเทศ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับพระตำหนักธงน้อย อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน