นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.จันทบุรี ได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้งแล้วรวม 9 อำเภอ ประกอบด้วย อ.มะขาม อ.โป่งน้ำร้อน อ.สอยดาว อ.เขาคิชฌกูฎ อ.ท่าใหม่ อ.ขลุง อ.แก่งหางแมว อ.นายายอาม และ อ.เมือง รวม 51 ตำบล 477 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับผลกระทบแล้วประมาณ 50,000 ครัวเรือน
ทั้งนี้ จังหวัดได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ทหาร ตำรวจ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ ให้เร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง แต่แนวโน้มภัยแล้งจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจาก จ.จันทบุรี เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ ดังนั้น มีความจำเป็นต้องใช้น้ำเพื่อบำรุงผลผลิตให้ได้คุณภาพเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประสานกับสำนักฝนหลวงฯ เพื่อปฏิบัติการทำฝนเทียมช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ จ.จันทบุรี และภาคตะวันออก โดยจะเริ่มปฏิบัติการในวันที่ 1 มีนาคมนี้ โดยมีสนามบินท่าใหม่ เป็นจุดปฏิบัติการ
ทั้งนี้ จังหวัดได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ทหาร ตำรวจ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ ให้เร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง แต่แนวโน้มภัยแล้งจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจาก จ.จันทบุรี เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ ดังนั้น มีความจำเป็นต้องใช้น้ำเพื่อบำรุงผลผลิตให้ได้คุณภาพเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประสานกับสำนักฝนหลวงฯ เพื่อปฏิบัติการทำฝนเทียมช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ จ.จันทบุรี และภาคตะวันออก โดยจะเริ่มปฏิบัติการในวันที่ 1 มีนาคมนี้ โดยมีสนามบินท่าใหม่ เป็นจุดปฏิบัติการ