รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมาในโลกโซเซียลมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ และภาพข่าวการติดตามจับกุมฆาตกรโรคจิต ก่อคดีข่มขืน และฆ่าหญิงสูงวัยต่อเนื่อง 10 คดีรวด ตั้งแต่ปี 53-57 ในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม -สมุทรสาคร -นครปฐม โดยระบุว่า “พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมชุดคลี่คลายติดตามคดี มีการประชุม และปล่อยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลาย พร้อมชุดสืบสวนลงเรือออกสำรวจ และติดตามตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่เข้าข่ายต้องสงสัยบริเวณคลองเจ็ก คลองสำโรง คลองโยง คลองบางสะบ้า และคลองใกล้เคียง ในพื้นที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หากพบบุคคลที่มีลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายจะเชิญตัวมาตรวจ DNA โดยผลการติดตามปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระตีบ อ.กำแพงแสน สามารถจับกุมชายต้องสงสัยรายหนึ่งที่มีหน้าตาใกล้เคียงกับภาพสเก็ต และขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบ DNA นั้น"
ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าชุดทำงานของ พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมชุดคลี่คลายติดตามคดี ได้ลงพื้นที่ติดตามจับกุมคนร้ายจริง แต่ขอยืนยันว่า ยังไม่มีการจับกุมคนร้าย หรือผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด หากมีการจับกุมได้จริง จะต้องมีการแถลงข่าวให้ประชาชนทราบอย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันชาวบ้านใน จ.นครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง ต่างอยู่กันอย่างหวาดผวาเป็นอย่างมาก
ด้าน พ.ต.อ.พีรพล ไชยพงศ์ ผกก.สภ.กระตีบ หนึ่งในพื้นที่ที่ตกเป็นข่าวการผู้จับกุมผู้ต้องสงสัยชี้แจงว่า กระแสข่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด เนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวบ้านแจ้งว่าพบชายต้องสงสัยรูปพรรณสัณฐานคล้ายคนร้ายในคดีข่มขืนหญิงสูงวัย เดินอยู่ริมถนน จึงเกิดความหวาดกลัว ตนจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุม ผลปรากฏว่า ผู้ต้องสงสัยที่จับได้เป็นชาวพม่า รูปร่างเตี้ย รูปพรรณสัณฐาน และตำหนิไม่ตรงกับของคนร้ายที่ผู้เสียหายระบุว่าสูงประมาณ 170 ซม. อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐาน และ DNA ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน 7 พร้อมควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไว้ดำเนินคดีฐานลักลอบเข้าเมือง เนื่องจากใบอนุญาตหมดอายุ และจากการสอบถามได้ความว่า ชายคนดังกล่าวเดินทางเข้าประเทศไทยทางด่านตรวจคนเข้าเมืองใน จ.กาญจนบุรี ต้องการตามหาน้องสาวที่มาทำงานอยู่โรงงานปลากระป๋อง แต่เงินหมดก่อนจึงเดินไปเรื่อย ๆ แต่ทั้งนี้ในเขตกำแพงแสน ไม่มีโรงงานปลากระป๋อง จึงควบคุมตัวไว้ก่อนจะผลักดันกลับสู่ประเทศต่อไป
ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าชุดทำงานของ พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมชุดคลี่คลายติดตามคดี ได้ลงพื้นที่ติดตามจับกุมคนร้ายจริง แต่ขอยืนยันว่า ยังไม่มีการจับกุมคนร้าย หรือผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด หากมีการจับกุมได้จริง จะต้องมีการแถลงข่าวให้ประชาชนทราบอย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันชาวบ้านใน จ.นครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง ต่างอยู่กันอย่างหวาดผวาเป็นอย่างมาก
ด้าน พ.ต.อ.พีรพล ไชยพงศ์ ผกก.สภ.กระตีบ หนึ่งในพื้นที่ที่ตกเป็นข่าวการผู้จับกุมผู้ต้องสงสัยชี้แจงว่า กระแสข่าวเป็นเรื่องเข้าใจผิด เนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวบ้านแจ้งว่าพบชายต้องสงสัยรูปพรรณสัณฐานคล้ายคนร้ายในคดีข่มขืนหญิงสูงวัย เดินอยู่ริมถนน จึงเกิดความหวาดกลัว ตนจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุม ผลปรากฏว่า ผู้ต้องสงสัยที่จับได้เป็นชาวพม่า รูปร่างเตี้ย รูปพรรณสัณฐาน และตำหนิไม่ตรงกับของคนร้ายที่ผู้เสียหายระบุว่าสูงประมาณ 170 ซม. อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐาน และ DNA ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน 7 พร้อมควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไว้ดำเนินคดีฐานลักลอบเข้าเมือง เนื่องจากใบอนุญาตหมดอายุ และจากการสอบถามได้ความว่า ชายคนดังกล่าวเดินทางเข้าประเทศไทยทางด่านตรวจคนเข้าเมืองใน จ.กาญจนบุรี ต้องการตามหาน้องสาวที่มาทำงานอยู่โรงงานปลากระป๋อง แต่เงินหมดก่อนจึงเดินไปเรื่อย ๆ แต่ทั้งนี้ในเขตกำแพงแสน ไม่มีโรงงานปลากระป๋อง จึงควบคุมตัวไว้ก่อนจะผลักดันกลับสู่ประเทศต่อไป
