นายวิทูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันจันทรนี้ตัวแทนผู้ประกอบการรถแท็กซี่จะหารือกับกรมการขนส่งทางบกกรณีผลกระทบการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีอีกกิโลกรัมละ 50 สตางค์ตามมติของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวานนี้ จากนั้นจะนัดประชุมผู้ประกอบการเพื่อสรุปผลว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตาม คิดว่า จะเสนอให้ปรับราคาโดยสารขึ้นอีกร้อยละ 8 มิฉะนั้นจะกระทบต้นทุนของรถแท็กซี่ที่ใช้เอ็นจีวีประมาณ 70,000 คัน จากที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 100,000 คัน
ขณะที่นางภัทราวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง (รถร่วมบริการ ขสมก.) เปิดเผยว่า สมาคมเตรียมหารือสมาชิกเพื่อพิจารณาผลกระทบจากการปรับขึ้นเอ็นจีวีดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้รถร่วมส่วนใหญ่ติดตั้งเอ็นจีวีหมดแล้ว ขณะเดียวกันจะขอเข้าพบนายพงษ์ชัย เกษมทวีศักดิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เพื่อให้หามาตรการช่วยเหลือ
ด้านนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ว่าจ้าง เพื่อขอปรับอัตราค่าขนส่งจากราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนเพิ่มอีกร้อยละ 5-10 กระทบกับรถบรรทุกทั่วประเทศที่มีกว่า 1 แสนคัน ซึ่งมติ กบง.เมื่อวานนี้ให้ปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีสำหรับยานยนต์ทุกกลุ่มกิโลกรัมละ 50 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ทำให้เอ็นจีวีสำหรับผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปราคาปรับจาก 12.50 บาท เป็น 13 บาท ส่วนกลุ่มรถโดยาสารสาธารณะปารับจาก 9 บาท 50 สตางค์เป็น 10 บาท ทั้งนี้ ให้เหตุผลว่าเ พื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งอยู่ที่ 15-16 บาท
อย่างไรก็ตาม คิดว่า จะเสนอให้ปรับราคาโดยสารขึ้นอีกร้อยละ 8 มิฉะนั้นจะกระทบต้นทุนของรถแท็กซี่ที่ใช้เอ็นจีวีประมาณ 70,000 คัน จากที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 100,000 คัน
ขณะที่นางภัทราวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง (รถร่วมบริการ ขสมก.) เปิดเผยว่า สมาคมเตรียมหารือสมาชิกเพื่อพิจารณาผลกระทบจากการปรับขึ้นเอ็นจีวีดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้รถร่วมส่วนใหญ่ติดตั้งเอ็นจีวีหมดแล้ว ขณะเดียวกันจะขอเข้าพบนายพงษ์ชัย เกษมทวีศักดิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เพื่อให้หามาตรการช่วยเหลือ
ด้านนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ว่าจ้าง เพื่อขอปรับอัตราค่าขนส่งจากราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนเพิ่มอีกร้อยละ 5-10 กระทบกับรถบรรทุกทั่วประเทศที่มีกว่า 1 แสนคัน ซึ่งมติ กบง.เมื่อวานนี้ให้ปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีสำหรับยานยนต์ทุกกลุ่มกิโลกรัมละ 50 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ทำให้เอ็นจีวีสำหรับผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปราคาปรับจาก 12.50 บาท เป็น 13 บาท ส่วนกลุ่มรถโดยาสารสาธารณะปารับจาก 9 บาท 50 สตางค์เป็น 10 บาท ทั้งนี้ ให้เหตุผลว่าเ พื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งอยู่ที่ 15-16 บาท
