วันนี้ (30 ม.ค.) นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางพารา เดินทางมาอ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 1/2558 ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล (ชั่วคราว) หลังจากที่ได้ติดตามความคืบหน้ากรณีที่ได้เรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แก้ไขปัญหาวิกฤตราคายางพาราตกต่ำ
โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า เนื่องจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางได้รับความเดือดร้อน แม้หลายฝ่ายจะมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาปัญหารวมทั้งการออกมาตรการทั้ง 16 โครงการของรัฐบาล โดยเฉพาะการแทรกแซงราคายางพารา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะผลประโยชน์ตกอยู่กับพ่อค้าโรงงาน และเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริต และไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น
แนวร่วมฯ จึงมีมติเรียกร้องให้รัฐบาลยุติโครงการมูลภัณฑ์กันชน และให้ใช้วิธีการที่แนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางเคยเสนอไว้คือรับซื้อยางพารากิโลกรัมละ 80 บาท และชดเชยส่วนต่างเป็นพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งมาตรการนี้จะเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงเป้าหมาย สามารถบรรเทา เยียวยาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางได้ทั่วถึงทุกกลุ่ม และป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ ขอเสนอให้รัฐบาลอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินวงเงิน 7,500 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือกรณี 1,000 บาทต่อไร่ โดยให้จ่ายเงินช่วยเหลือเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตามช่วงฤดูปิดกรีดยางในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม และระหว่างนี้ทางแนวร่วมจะลงพื้นที่เพื่อจัดเวทีในทุกภาค เพื่อประเมินผลการทำงานของรัฐในการแก้ไขปัญหายางพาราทั้ง 16 โครงการ เพื่อรวบรวมข้อมูลให้เห็นว่าโครงการต่างๆ ล้มเหลวอย่างไร ขณะเดียวกัน แนวร่วมฯ ขอคัดค้านและต่อต้านการบรรจุไม้ยางพาราในบัญชีท้าย พ.ร.บ.สวนป่า
โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า เนื่องจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางได้รับความเดือดร้อน แม้หลายฝ่ายจะมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาปัญหารวมทั้งการออกมาตรการทั้ง 16 โครงการของรัฐบาล โดยเฉพาะการแทรกแซงราคายางพารา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะผลประโยชน์ตกอยู่กับพ่อค้าโรงงาน และเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริต และไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น
แนวร่วมฯ จึงมีมติเรียกร้องให้รัฐบาลยุติโครงการมูลภัณฑ์กันชน และให้ใช้วิธีการที่แนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางเคยเสนอไว้คือรับซื้อยางพารากิโลกรัมละ 80 บาท และชดเชยส่วนต่างเป็นพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งมาตรการนี้จะเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงเป้าหมาย สามารถบรรเทา เยียวยาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางได้ทั่วถึงทุกกลุ่ม และป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ ขอเสนอให้รัฐบาลอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินวงเงิน 7,500 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือกรณี 1,000 บาทต่อไร่ โดยให้จ่ายเงินช่วยเหลือเดือนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ตามช่วงฤดูปิดกรีดยางในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม และระหว่างนี้ทางแนวร่วมจะลงพื้นที่เพื่อจัดเวทีในทุกภาค เพื่อประเมินผลการทำงานของรัฐในการแก้ไขปัญหายางพาราทั้ง 16 โครงการ เพื่อรวบรวมข้อมูลให้เห็นว่าโครงการต่างๆ ล้มเหลวอย่างไร ขณะเดียวกัน แนวร่วมฯ ขอคัดค้านและต่อต้านการบรรจุไม้ยางพาราในบัญชีท้าย พ.ร.บ.สวนป่า
