เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพวกที่เป็นตำรวจ รวม 6 คน มาสอบคำให้การใน 3 สำนวนคดี โดยสำนวนแรกอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ชอบ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งตามคำฟ้องระบุว่า ช่วงปี 2555-2557 จำเลยได้ร่วมกันเรียกรับสินบนจากผู้ลักลอบจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงโดยผิดกฎหมาย ในน่านน้ำไทยรวมเป็นเงินกว่า 147 ล้านบาท
ส่วนสำนวนที่ 2 ในกรณีที่ช่วงปี 2553 ถึง 2557 จำเลยร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากการซื้อขายตำแหน่งในสังกัดกองบัญชาการสอบสวนกลาง และสำนวนที่ 3 ฐานสนับสนุนให้มีการเปิดบ่อนการพนัน เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น จากกรณีที่จำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องในการเปิดบ่อนโคลอนเซ่ ย่านพระราม 9 โดยจำเลยทั้งหมดสารภาพทุกข้อกล่าวหา ซึ่งวันนี้ (30 ม.ค.) ศาลจะพิจารณาสำนวนคดีแอบอ้างสถาบันเรียกรับส่วยน้ำมันเถื่อน และสำนวนคดีบ่อนการพนันโคลอนเซ่ว่าจะรับฟ้องหรือไม่ ในเวลาประมาณ 12.00 น. ส่วนสำนวนคดีรับผลประโยชน์จากการซื้อขายตำแหน่งจะมีการนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานในครั้งต่อไป
ส่วนสำนวนที่ 2 ในกรณีที่ช่วงปี 2553 ถึง 2557 จำเลยร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์จากการซื้อขายตำแหน่งในสังกัดกองบัญชาการสอบสวนกลาง และสำนวนที่ 3 ฐานสนับสนุนให้มีการเปิดบ่อนการพนัน เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น จากกรณีที่จำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องในการเปิดบ่อนโคลอนเซ่ ย่านพระราม 9 โดยจำเลยทั้งหมดสารภาพทุกข้อกล่าวหา ซึ่งวันนี้ (30 ม.ค.) ศาลจะพิจารณาสำนวนคดีแอบอ้างสถาบันเรียกรับส่วยน้ำมันเถื่อน และสำนวนคดีบ่อนการพนันโคลอนเซ่ว่าจะรับฟ้องหรือไม่ ในเวลาประมาณ 12.00 น. ส่วนสำนวนคดีรับผลประโยชน์จากการซื้อขายตำแหน่งจะมีการนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานในครั้งต่อไป