ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือกรุงเทพโพลล์ ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง อนาคตพรรคเพื่อไทย อนาคตประชานิยม หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกถอดถอน" โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 959 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศพบว่า ประชาชนร้อยละ 45.7 เห็นว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกถอดถอน คือ การปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว รองลงมาร้อยละ 24.5 คิดว่าเป็นเกมการเมืองของฝ่ายตรงข้าม และร้อยละ 15.8 คิดว่าเกิดจากดำเนินโครงการขาดทุน ทำให้ประเทศเป็นหนี้ ที่เหลือร้อยละ 14.0 ระบุว่า ไม่แน่ใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเฉพาะผู้ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 41.0 คิดว่าสาเหตุหลักมาจากเกมการเมืองของฝ่ายตรงข้าม ขณะที่ผู้ที่ไม่ได้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยร้อยละ 62.9 คิดว่าสาเหตุหลักมาจากการปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว
ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 57.6 คิดว่า หากมีการเลือกตั้งสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยจะยังคงใช้นโยบายประชานิยมในการหาเสียงเหมือนเดิม และร้อยละ 30.5 คิดว่าพรรคเพื่อไทยคงจะลดการใช้นโยบายประชานิยมในการหาเสียงลง ที่เหลือร้อยละ 11.9 ไม่แน่ใจ
อย่างไรก็ตาม ประชาชนร้อยละ 44.6 ระบุการเลือกตั้งสมัยหน้าจะยังสนับสนุนพรรคการเมืองที่ใช้นโยบายประชานิยมในการหาเสียง ขณะที่ร้อยละ 21.1 ระบุจะไม่สนับสนุนเด็ดขาด และร้อยละ 17.6 ระบุว่าไม่สนับสนุน เพราะโอกาสขาดทุนสูง/ประเทศเป็นหนี้ มีเพียงร้อยละ 10.1 เท่านั้นที่จะสนับสนุนเหมือนเดิม
นอกจากนี้ ประชาชนร้อยละ 46.5 เชื่อว่าการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการสร้างความปรองดองของ คสช.และรัฐบาล โดยมองว่าไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เป็นเพราะการคอร์รัปชัน ขณะที่ร้อยละ 19.0 ระบุว่าส่งผลอย่างมาก โดยคาดว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นช้าไปอีก ที่เหลือร้อยละ 8.5 ระบุ่าไม่แน่ใจ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเฉพาะผู้ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 41.0 คิดว่าสาเหตุหลักมาจากเกมการเมืองของฝ่ายตรงข้าม ขณะที่ผู้ที่ไม่ได้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยร้อยละ 62.9 คิดว่าสาเหตุหลักมาจากการปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว
ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 57.6 คิดว่า หากมีการเลือกตั้งสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยจะยังคงใช้นโยบายประชานิยมในการหาเสียงเหมือนเดิม และร้อยละ 30.5 คิดว่าพรรคเพื่อไทยคงจะลดการใช้นโยบายประชานิยมในการหาเสียงลง ที่เหลือร้อยละ 11.9 ไม่แน่ใจ
อย่างไรก็ตาม ประชาชนร้อยละ 44.6 ระบุการเลือกตั้งสมัยหน้าจะยังสนับสนุนพรรคการเมืองที่ใช้นโยบายประชานิยมในการหาเสียง ขณะที่ร้อยละ 21.1 ระบุจะไม่สนับสนุนเด็ดขาด และร้อยละ 17.6 ระบุว่าไม่สนับสนุน เพราะโอกาสขาดทุนสูง/ประเทศเป็นหนี้ มีเพียงร้อยละ 10.1 เท่านั้นที่จะสนับสนุนเหมือนเดิม
นอกจากนี้ ประชาชนร้อยละ 46.5 เชื่อว่าการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการสร้างความปรองดองของ คสช.และรัฐบาล โดยมองว่าไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เป็นเพราะการคอร์รัปชัน ขณะที่ร้อยละ 19.0 ระบุว่าส่งผลอย่างมาก โดยคาดว่าความปรองดองจะเกิดขึ้นช้าไปอีก ที่เหลือร้อยละ 8.5 ระบุ่าไม่แน่ใจ
