ชาวอเมริกันหลายสิบล้านในบริเวณชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ยังคงตระเตรียมตัวในวันอังคาร (27 ม.ค.) อีกวันหนึ่ง คอยเฝ้าระวังถึงพายุหิมะซึ่งทางการเตือนว่าอาจรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยที่ก่อนหน้านี้มี 7 มลรัฐประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลายพื้นที่ห้ามการเดินทางทุกรูปแบบ และเที่ยวบินกว่า 7,000 เที่ยวระงับการให้บริการ ถึงแม้ในเวลาต่อมาจะมีการปรับลดระดับคำเตือนลง และปรากฏว่าหิมะซึ่งตกก็ไม่หนักหน่วงสาหัสอย่างที่หวั่นกลัวกันก็ตาม
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์บริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NWS) ออกประกาศเตือนว่า พายุลูกนี้จะทำให้มีหิมะตกหนา 30-90 เซนติเมตร รวมทั้งลมแรงระดับเฮอร์ริเคน โดยครอบคลุมพื้นที่ 450 ตารางกิโลเมตร และประชากรราว 60 ล้านคนในกว่า 10 รัฐแถบชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะ เขต “นิวอิงแลนด์”
ด้วยเหตุนี้ประชาชนในบริเวณที่ได้รับการคาดการณ์ว่า จะเผชิญพายุหิมะจึงรีบกลับบ้านก่อนเวลาในวันจันทร์ (26) ผู้ว่าการ 7 มลรัฐยังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และห้ามการเดินทาง มีการปิดถนน ระบบราง สะพาน อุโมงค์ และระดมกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เตรียมตักหิมะทิ้งครั้งใหญ่ที่สุด
บิลล์ เดอ บลาสิโอ นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก เรียกร้องให้ประชาชนรีบกลับและอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากพายุหิมะครั้งนี้อาจรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์นิวยอร์กซิตี้
แอนดริว คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก สั่งปิดระบบรถไฟใต้ดิน และห้ามการเดินทางทุกรูปแบบยกเว้นกรณีฉุกเฉินในบริเวณ 13 เทศมณฑล ตั้งแต่เวลา 23.00 น. คืนวันจันทร์ โดยผู้ฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดทางอาญา
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเช้าวันอังคาร (27) กลับมีการลดระดับคำเตือน โดยระบุว่า นิวอิงแลนด์จะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ไม่รุนแรงเท่าที่คาดไว้แต่แรก
บรูซ ซัลลิแวน จาก NWS ระบุว่า เมืองบอสตัน ของรัฐแมสซาชูเซตส์ และเมืองโพรวิเดนซ์ ในโรดไอส์แลนด์ อาจมีหิมะตกหนักที่สุดประมาณ 60 ซม., นิวยอร์ก 20-40 ซม., เมืองฮาร์ตฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต 30-60 ซม., เมืองฟิลาเดลเฟียและตอนกลางของรัฐนิวเจอร์ซีย์ 15 ซม.
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์บริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NWS) ออกประกาศเตือนว่า พายุลูกนี้จะทำให้มีหิมะตกหนา 30-90 เซนติเมตร รวมทั้งลมแรงระดับเฮอร์ริเคน โดยครอบคลุมพื้นที่ 450 ตารางกิโลเมตร และประชากรราว 60 ล้านคนในกว่า 10 รัฐแถบชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะ เขต “นิวอิงแลนด์”
ด้วยเหตุนี้ประชาชนในบริเวณที่ได้รับการคาดการณ์ว่า จะเผชิญพายุหิมะจึงรีบกลับบ้านก่อนเวลาในวันจันทร์ (26) ผู้ว่าการ 7 มลรัฐยังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และห้ามการเดินทาง มีการปิดถนน ระบบราง สะพาน อุโมงค์ และระดมกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เตรียมตักหิมะทิ้งครั้งใหญ่ที่สุด
บิลล์ เดอ บลาสิโอ นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก เรียกร้องให้ประชาชนรีบกลับและอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากพายุหิมะครั้งนี้อาจรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์นิวยอร์กซิตี้
แอนดริว คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก สั่งปิดระบบรถไฟใต้ดิน และห้ามการเดินทางทุกรูปแบบยกเว้นกรณีฉุกเฉินในบริเวณ 13 เทศมณฑล ตั้งแต่เวลา 23.00 น. คืนวันจันทร์ โดยผู้ฝ่าฝืนถือว่ามีความผิดทางอาญา
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเช้าวันอังคาร (27) กลับมีการลดระดับคำเตือน โดยระบุว่า นิวอิงแลนด์จะเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ไม่รุนแรงเท่าที่คาดไว้แต่แรก
บรูซ ซัลลิแวน จาก NWS ระบุว่า เมืองบอสตัน ของรัฐแมสซาชูเซตส์ และเมืองโพรวิเดนซ์ ในโรดไอส์แลนด์ อาจมีหิมะตกหนักที่สุดประมาณ 60 ซม., นิวยอร์ก 20-40 ซม., เมืองฮาร์ตฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต 30-60 ซม., เมืองฟิลาเดลเฟียและตอนกลางของรัฐนิวเจอร์ซีย์ 15 ซม.